วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568
ผู้แทนการค้าไทย ชัย วัชรงค์ หารือภาคเอกชนเวียดนาม หนุนขยายความร่วมมือการค้าโคเนื้อ ย้ำศักยภาพการส่งออกสินค้าไทยไปเวียดนามยังเปิดกว้าง
วันนี้ (วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2568) เวลา 10.30 น. ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย พร้อมด้วยนางสาวอุรวดี ศรีภิรมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย และคณะ ร่วมหารือกับผู้บริหารบริษัท Le Dung Linh Company ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์โคเนื้อของเวียดนาม โดยมี Ms. Nguyen Thi Doan Phuong ผู้จัดการบริษัทฯ และ Mr. Le Van Nam รองผู้จัดการบริษัทฯ เข้าร่วม โดยสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ผู้แทนการค้าไทยระบุว่า เวียดนามเป็นอีกตลาดเป้าหมายสำคัญภายใต้นโยบายส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและปศุสัตว์ไทย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยไทยมีแนวทางที่จะจัดตั้งเครือข่ายผู้ผลิต–ผู้ส่งออก หรือคู่ค้าที่มีคุณภาพ พร้อมจะจัดทำรายชื่อผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกทั้งจากฝั่งไทยและเวียดนาม เพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งกลไกในการขอเอกสารรับรองสุขภาพสัตว์ ตลอดจนอำนวยความสะดวกในกระบวนการศุลกากร นอกจากนี้ ผู้แทนการค้าไทยยังเสนอแนวทางการยกระดับคุณภาพโคเนื้อด้วยการปรับโครงสร้างสายพันธุ์ โดยใช้เทคโนโลยีผสมเทียมจากสายพันธุ์ยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย เพื่อให้ได้เนื้อวัวคุณภาพสูงในราคาที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด
“เรากำลังดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการไทยที่มีมาตรฐานสูง เพื่อจับคู่กับผู้นำเข้าในเวียดนามอย่างเป็นระบบ ให้การค้าระหว่างกันมีความต่อเนื่อง มั่นคง และได้มาตรฐาน” ผู้แทนการค้าไทย กล่าวย้ำ
ด้านบริษัท Le Dung Linh Company เปิดเผยว่า เวียดนามมีแนวโน้มการบริโภคเนื้อวัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางถึงพรีเมียม ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้นำเข้าโคเนื้อจากไทยแล้วกว่า 60,000 ตัวในปีก่อน และคาดว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้ บริษัทฯ คำนึงถึงการคัดกรองผู้ประกอบการไทยให้ได้มาตรฐาน เพื่อให้การนำเข้าปลอดภัย และตรวจสอบย้อนกลับได้ พร้อมเสนอให้ภาครัฐทั้งสองประเทศสนับสนุนด้านเอกสารและกระบวนการอนุญาต
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางส่งเสริมโลจิสติกส์และการขยายตลาดโคเนื้อ โดยผู้แทนการค้าไทย เสนอให้จัดกิจกรรม Business Matching ระหว่างผู้ผลิตโคเนื้อไทยกับผู้นำเข้าเวียดนาม ซึ่งเห็นถึงศักยภาพที่ไทยสามารถให้บริการทางโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางเรือได้ในอนาคต ขณะที่บริษัทฯ เห็นพ้องในแนวทางและเชื่อว่าการขนส่งโคเนื้อผ่านท่าเรือจะช่วยลดต้นทุนและสามารถรองรับปริมาณนำเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงด้านการพัฒนาสายพันธุ์ ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจถึงแนวทางการปรับปรุงพันธุกรรมโคเนื้อของไทย ซึ่งหากไทยสามารถผลิตโคคุณภาพดีในราคาที่แข่งขันได้ จะเป็นโอกาสสำคัญในการขยายส่วนแบ่งตลาดร่วมกัน
ในช่วงท้าย ผู้แทนการค้าไทยเน้นย้ำว่า ไทยพร้อมจะทำงานเชิงรุกเพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้กรอบความร่วมมือที่เป็นระบบ และลดอุปสรรคทางการค้าต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่ายสามารถเติบโตร่วมกันได้ในระยะยาว