วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568
พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง และส่งเสริมโอกาสเพื่อสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพของเด็กและเยา
ในพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ “การประสานความร่วมมือในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง และส่งเสริมโอกาสเพื่อสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพ” ภายใต้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม กับ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และระหว่างกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กับหอการค้าไทย - จีน พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นเกียรติในพิธี โดยมี นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด และนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานกรรมการหอการค้าไทย - จีน ร่วมลงนามฯ โอกาสนี้ นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกรมพินิจฯ กรมราชทัณฑ์ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด หอการค้าไทย - จีน เข้าร่วมพิธีลงนามฯ ดังกล่าว ณ ห้องประชุมสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม
โอกาสนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่กระทรวงยุติธรรมได้รับนโยบายจากมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุขฯ มากำหนดเป็นแผนในการยกระดับการศึกษาและการฝึกทักษะอาชีพ ตลอดจนส่งเสริม ผู้ต้องราชทัณฑ์ และเด็กและเยาวชน ได้เข้าสู่การฝึกปฏิบัติงาน และมีการประกอบอาชีพในสถานประกอบการ สำหรับความร่วมมือในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง สอดคล้องกับความต้องการของสังคมปัจจุบัน และสามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริง
ด้านนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของการบูรณาการระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ความร่วมมือในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพและเปิดโอกาสให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ เด็กเยาวชน และบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม สามารถพัฒนาความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะชีวิตและทักษะอาชีพสมัยใหม่ ซึ่งความสำเร็จของการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ สิ่งที่สำคัญ ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ การพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูง และการส่งเสริมโอกาส ซึ่งต้องขอขอบคุณเครือข่ายภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของเด็กและเยาวชน ตลอดจนผู้ต้องราชทัณฑ์ และร่วมเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจ “คืนคนดีสู่สังคม” หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ที่จะสร้าง “พลังแห่งโอกาส” และเปิดเส้นทางชีวิตใหม่ให้กับผู้ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาตนเอง และกลับมาเป็นกำลังที่เข้มแข็งของสังคมอีกครั้ง
ด้าน พันตำรวจโท ประวุธ วงศ์สีนิล อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและส่งเสริมการฝึกอาชีพให้แก่เด็กและเยาวชนเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกรมพินิจฯ โดยมุ่งหวังให้เด็กและเยาวชนมีทักษะวิชาชีพติดตัว เป็นการเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ กรมพินิจฯ จึงมีความพยายามที่จะทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ในการส่งเสริม พัฒนาให้เด็กและเยาวชนมีความรู้ ความสามารถ และมีทักษะวิชาชีพ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมโอกาส และสร้างทางเลือกของเด็กและเยาวชนภายหลังปล่อยตัว ทุกท่านในที่นี้ คือ จิ๊กซอว์ ที่สำคัญในการเชื่อมโยงส่งมอบโอกาสและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน และผมเชื่อว่า ทุกเครือข่ายความร่วมมือที่เข้ามาสนับสนุนภารกิจของกรมพินิจฯ ต่างมุ่งหวังเพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิและดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
ด้านนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ทาง Bitkub ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาทักษะสำหรับทุกคนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนภายใต้การดูแลของกรมพินิจฯ รวมถึงผู้ต้องขังในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ ภายใต้ความร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมในครั้งนี้ Bitkub มีแผนดำเนินโครงการ roadshow ด้านการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจทั่วประเทศในปี 2568 ซึ่งจะครอบคลุมทั้งสถานพินิจฯ ศูนย์ฝึกและอบรมฯ และเรือนจำ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาทักษะอาชีพแห่งอนาคต
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย - จีน กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจในวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริม และสนับสนุนการพัฒนาเด็กและเยาวชนในกระบวนการยุติธรรม ให้มีโอกาสเข้าถึงการเรียนรู้และฝึกทักษะอาชีพที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน หอการค้าไทย - จีน พร้อมให้ความร่วมมือในการเชื่อมโยงภาคเอกชน สนับสนุนองค์ความรู้ วิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ และโอกาสในการฝึกประสบการณ์ทางอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับคืนสู่สังคมอย่างมั่นคง มีอาชีพ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ในอนาคต