วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568
ปลัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้พิพากษาเกี่ยวกับการใช้มาตรการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพทางสังคมแก่ผู้ติดยาเสพติด ครั้งที่ 2
ในวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00 น. นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้พิพากษาเกี่ยวกับการใช้มาตรการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพทางสังคมแก่ผู้ติดยาเสพติด ครั้งที่ 2 โดยมี นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วย นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เป็นผู้กล่าวรายงาน โดยมี พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้าราชการตุลาการในศาลฎีกา ศาลชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้น และข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เข้าร่วมฯ ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมามีการปรับปรุงกฎหมายหลายฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2564 ส่งผลให้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหลายฉบับถูกยกเลิก เช่น กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย กฎหมายว่าด้วยมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาสเพติด กฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท เป็นต้น ตลอดจนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เกี่ยวข้อง สำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการสนับสนุนงานทางด้านวิชาการของศาลยุติธรรม จึงร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) จัดโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้พิพากษาเกี่ยวกับการใช้มาตรการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพทางสังคมแก่ผู้ติดยาเสพติด ครั้งที่ 2 ขึ้น ระหว่างวันที่ 11 - 13 มิถุนายน 2568 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตุลาการในศาลฎีกา ศาลชั้นอุทธรณ์ ศาลชั้นต้น และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ได้รับทราบและเพิ่มพูนความรู้ประมวลกฎหมายยาเสพติดและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับมาตราการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปสนับสนุนแนวทางในการปฏิบัติงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้เสนอปัญหาและข้อขัดข้องจากการปฏิบัติงาน ตลอดจนแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมทั้งเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกันต่อไป