วันนี้ (29 มี.ค. 68) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 1 ปภ. อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เพื่อติดตามสถานการณ์ ผลกระทบ และการแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหว โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้บริหาร ปภ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรธรณี กรุงเทพมหานคร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมการประชุมฯ และผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเมียนมาเมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 68) ส่งผลให้ประเทศไทยรับรู้แรงสั่นสะเทือนทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ แรงสั่นไหวทำให้เกิดความเสียหายหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เขตจตุจักร ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างได้เกิดการถล่มลงมาทำให้มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตและสูญหาย ส่วนตึกอื่น ๆ ไม่มีผลกระทบที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ในวันนี้จึงมาติดตามสถานการณ์ ผลกระทบและการแก้ไขปัญหาภัยจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้อาคารถล่ม พร้อมกำหนดมาตรการในการช่วยเหลือ ซึ่งได้กำหนดให้มีการรายงานผลการดำเนินงานไว้ 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกรุงเทพมหานครในฐานะศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้ากรุงเทพมหานคร ที่อยู่ในการกำกับดูแลของ บกปภ.ช. ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้บัญชาการกองบัญชาการฯ โดยปัจจุบันเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยสงบลงแล้ว หลายอาคารจำเป็นต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของอาคาร หากอาคารใดมีผู้ตรวจสอบอาคารอยู่แล้วให้ดำเนินการตรวจสอบและแจ้งให้ผู้อยู่อาศัยหรือเจ้าหน้าที่ที่ต้องทำงานภายในอาคารทราบ หากอาคารใดต้องการรับการสนับสนุนให้ดำเนินมาได้เพื่อสนับสนุนทีมวิศวกรจากกรมโยธาธิการและผังเมืองไปช่วยสำรวจอาคาร

สำหรับการส่งข้อความแจ้งเตือน SMS ที่มีการแจ้งรายงานว่ามีความล่าช้าและไม่ทั่วถึง เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขเนื่องจากระบบ Cell Broadcast จะสามารถใช้บริการได้ในเดือนกรกฎาคม 2568 ดังนั้น ต้องขอความร่วมมือจากเครือข่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น AIS TRUE ร่วมดำเนินการเพื่อส่งข้อความไปยังประชาชนอย่างรวดเร็ว พร้อมขอให้ กสทช. และ ปภ. ประสานงานร่วมกันและหวังว่าเมื่อมีระบบ Cell Broadcast เข้ามาแล้ว จะต้อง Alert กันมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ

ส่วนด้านคมนาคม ต้องอาศัยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียด ซึ่งวันนี้กรมการขนส่งทางรางได้เปิดให้บริการหมดทุกที่แล้ว ยกเว้นรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองที่ขอเวลาตรวจประเมินอีก 1 วัน ส่วนเส้นทางคมนาคมยังไม่สามารถเปิดช่องทางได้ 1 จุด คือ ช่วงทางด่วนขึ้น-ลง ด่านดินแดง ซึ่งมีเครนกีดขวางในสภาพที่ไม่ปลอดภัย เนื่องจากเป็นเครนของเอกชน กระทรวงคมนาคมจึงจำเป็นต้องประสานกับกรุงเทพมหานครเพื่อร่วมมือนำเครนลง ในส่วนของการช่วยเหลืออื่นนั้น นอกจากนี้ วันนี้กรุงเทพมหานครยังคงเปิดสวนสาธารณะ 5 แห่ง ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนที่ยังกลับที่พักอาศัยไม่ได้ ให้เข้ามาอาศัยได้เป็นการชั่วคราว พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจตราและดูแลความปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลจะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะด้านการเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลจะออกมาตรการของการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป

“ขอให้ประชาชนมั่นใจสถานการณ์ต่อจากนี้ เพราะความแรงสั่นสะเทือนของ After Shock ตอนนี้ได้ลงน้อยลงแล้ว จนเราไม่รู้สึกถึงความสั่นไหว ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลจะเยียวยาและดูแลผู้ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด ประเทศไทยไม่ได้เกิดแผ่นดินไหวบ่อย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะใช้ทุกสรรพกำลังเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนให้ปลอดภัยและได้รับการเยียวยาได้อย่างเร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำงานกันอย่างหนักและได้มีการเข้าไปในพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะได้แถลงข่าวในประเด็นการบริหารจัดการของ กทม. ว่าต้องการการสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ อย่างไรบ้าง โดยในเบื้องต้นทีมของ ปภ. ได้เข้าพื้นที่ที่จุดเกิดเหตุ และทราบว่ามีเจ้าหน้าที่จากภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้งอาสาสมัครมูลนิธิพร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งทางกรุงเทพมหานครจะได้จัดระบบการทำงานในพื้นที่เพื่อทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างระบบและเกิดความปลอดภัยต่อผู้ประสบภัยและผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการระดมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ และการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่ ณ จุดบัญชาการที่เกิดเหตุ

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (28 มี.ค. 68) ตนได้เข้าไปที่เกิดเหตุ พบว่า มีทีมงานที่มีความพร้อมทั้งเครื่องมืออุปกรณ์ ตลอดจนมีนักวิชาการจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์อยู่ในพื้นที่ ซึ่งก่อนที่จะมีการประกาศยกระดับการจัดการสถานการณ์เป็นระดับ 3 (สาธารณภัยขนาดใหญ่) ได้มีอาสาสมัครเข้าปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ก่อนแล้ว ต้องขอแสดงความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการปฏิบัติต่อจากนี้ที่จะอาจมีระยะเวลานานและใช้กำลังเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก จึงจะจัดให้มีการลงทะเบียนเจ้าหน้ากู้ภัยกับทางจุดบัญชาการ ณ ที่เกิดเหตุ และขอยืนยันว่าทีมงานทั้งของ ปภ. และจากหน่วยงานอื่น ๆ ที่อยู่จุดเกิดเหตุมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ รวมถึงมีเครื่องมือในการค้นหาและกู้ภัยที่เป็นไปตามมาตรฐาน และจะดำเนินการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยควบคู่ไปกับการวิเคราะห์โครงสร้างของน้ำหนักอาคารที่ถล่ม เพื่อทีมค้นหาจะได้สามารถเข้าไปช่วยชีวิตผู้ติดค้างภายใต้อาคารได้ และขอย้ำว่า ขณะนี้เรายังต้องดำเนินภารกิจในการกู้ชีพ และยังมีความหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากการคาดการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงเย็นวันนี้ต่อเนื่องถึงเช้าวันพรุ่งนี้กรุงเทพมหานครมีโอกาสที่จะเกิดพายุฤดูร้อนซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการค้นหาผู้ติดภายใต้ซากอาคาร จึงขอให้ทีมผู้ปฏิบัติงานวางแผนการทำงานให้สอดรับกับสภาพอากาศที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังในทุกพื้นที่ที่ประสบภัย รวมถึงติดตามสถานการณ์และประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยหากประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป