วันนี้ (15 มิ.ย. 68) เวลา 11.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี โดยมี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ ณ โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
ในโอกาสนี้ นายอนุทิน และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพถนน สาย ทล 2023 อำเภอศรีธาตุ และเดินทางไปรับฟังรายงานข้อมูลการปรับสภาพภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบเทศบาลตำบลจำปี พร้อมร่วมปลูกต้นทองอุไร จำนวน 200 ต้น ตามโครงการ 1 ตำบล 1 ถนนสวยงามของเทศบาลตำบลจำปี ร่วมกับผู้นำท้องที่ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยมาตรวจราชการเพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานตามนโยบายเน้นหนักสำคัญ 5 ด้าน คือ การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน และน้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน เพื่อดูว่าสิ่งใดทำสำเร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งใดมีปัญหาอุปสรรคเพื่อปรับปรุงแก้ไขเติมเต็มให้สมบูรณ์เรียบร้อย
ในส่วนการสร้างอาชีพและรายได้นั้น ช่วงวันที่ 7- 15 มิ.ย. 68 กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการพัฒนาชุมชนอยู่ระหว่างการจัดงาน OTOP Midyear 2025 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งขอเชิญชวนประชาชนและทุกภาคส่วนในการร่วมอุดสิน ส่งเสริมสินค้าไทย ให้มีศักยภาพสู่การยกระดับสินค้า มีตลาดที่กว้างขวางชุมชนมีรายได้ที่ยั่งยืน
พร้อมกันนี้ นายอนุทินได้มอบแนวทางเกี่ยวกับการการพัฒนาเมือง ซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมโยธาธิการและผังเมืองนั้น ทั้งการพัฒนา ถนนไฟฟ้า ประปา สาธารณูปโภคต่างๆ ขอให้วางกรอบการพัฒนาที่มององค์รวม ส่วนการจัดการด้านสาธารณภัยในฤดูฝนต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่กักเก็บน้ำ
นายอนุทิน กล่าวว่า ข้าราชการการเมืองมีหน้าที่นำความต้องการของประชาชนไปกำหนดนโยบาย โดยมีข้าราชการประจำสนับสนุนหนุนการทำงาน จึงเหมือนเป็นการบังคับไปในตัวให้ฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำต้องทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิด โดยมีเป้าประโยชน์เดียวกันคือประโยชน์ของประชาชน ตนเป็นรองนายกรัฐมนตรีกำกับดูแล 4 กระทรวง คือ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และสถาบันรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ดังนั้น ทุกเรื่องของประชาชน ทั้งการศึกษาในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย การประกอบอาชีพ การทำงานทั้งในและต่างประเทศ ตนก็ต้องดูแลอย่างดี
"มท.1 แยกพรรคไม่ได้ ปัญหาของชาวบ้านเป็นงานของกระทรวงมหาดไทย ไม่ว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จะสังกัดพรรคใด ถ้าพบหรือได้รับทราบปัญหาของประชาชนแล้วแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยทราบ คนมหาดไทยจะต้องลงพื้นที่มาติดตามสภาพจริงและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในทุกพื้นที่อย่างเต็มกำลัง เพราะทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นั่นคือ ผู้แทนของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ผู้แทนของประชาชนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง" นายอนุทิน กล่าว