วันที่ 20 มิถุนายน 2568 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพอาสาสมัครเพื่อเข้าถึงมาตรฐานในการปฏิบัติงานด้านสวัสดิการสังคม โดยมี คุณสุระภีร์ วิเศษคุปต์ ประธานชมรมอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร , ดร.วันเพ็ญ พงษ์เก่า ประธานมูลนิธิพัฒนาวิชาชีพสตรี , นายลิขิต ลิ้มรสรวย ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมภูมิปัญญาเพื่อสังคม และ นางสาวสุวรรณา สอนกระต่าย เลขาธิการสมาคมพัฒนาบทบาทสตรีกรุงเทพมหานคร เข้าร่วม ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร
นายอนุกูล กล่าวว่า วันนี้ต้องขอชื่นชม อพม. ทุกท่าน ที่เป็นพลังสำคัญในการช่วยงานของกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ทางสังคมมีความซับซ้อนมากขึ้น อาทิ ความซับซ้อนด้านประชากร ทั้งคนที่มาจากต่างจังหวัด คนที่อยู่ในพื้นที่บุกรุก คนต่างด้าว ซึ่งเป็นข้อท้าทายที่ อพม. สามารถนำประสบการณ์ในมิติต่างๆ มาใช้ในการทำงาน ทำให้เราได้องค์ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ อพม. จะต้องดึงคนในครอบครัว โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่เข้ามาเป็นส่วนผสมของ อพม. เพื่อช่วยงานในกรุงเทพมานครเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ มี อพม.ทั่วประเทศ จำนวน 380,402 คน (ข้อมูล ณ 31 พ.ค. 68) แบ่งเป็น ภาคกลาง จำนวน 88,524 คน (23.27%) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 132,044 คน (34.71%) ภาคเหนือ จำนวน 88,083 คน (23.16%) ภาคใต้ จำนวน 63,390 คน (16.66%) และกรุงเทพมหานคร จำนวน 8,361 คน (2.20%) อย่างไรก็ตาม ปัญหาในกรุงเทพมหานครกระจายทุกพื้นที่ เพราะฉะนั้นการมีอาสาสมัครเข้ามาทำงาน จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ประสบปัญหาทางสังคมในการเข้าถึงบริการและสิทธิสวัสดิการต่างๆ ของภาครัฐ
นายอนุกูล กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมสูงอายุของประเทศไทยมาเร็วมาก และเป็นนโยบายหลักของกระทรวง พม. นอกจาก “5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร” ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบาง อาทิ การใช้สังกะสีเพื่อซ่อมแซมบ้านผู้สูงอายุ ทำให้มีความร้อนสูง อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่มเปราะบางจะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น อีกทั้งสถานการณ์น้ำท่วม จะเห็นว่าผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หรือแม้แต่เด็กเล็กเอง จะพบว่ามีเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำ เพราะไม่มีทักษะการว่ายน้ำ รวมถึงคนพิการ ที่ อพม. จะต้องใช้ประสบการณ์ของผู้ช่วยคนพิการ (Personal Assistant : PA) เพื่อส่งเสริมให้คนพิการได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดผ่านอาสาสมัครที่ได้รับการฝึกอบรม โดยมีค่าตอบแทนเดือนละไม่เกิน 10,800 บาท และผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ที่ได้รับการอบรม 240 ชั่วโมง เพื่อดูแลผู้สูงอายุรายกรณี พร้อมทั้งติดตามสิทธิ คุ้มครอง ป้องกันการถูกละเมิด และช่วยเหลือผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง โดยมีค่าตอบแทนเดือนละ 10,000 บาท
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า การยกระดับ อพม. สู่การเป็น “ผู้ปฏิบัติงานเชิงรุกด้านสวัสดิการสังคมในระดับชุมชน” ไม่เพียงแค่ให้ความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ประสานสิทธิสวัสดิการ และเชื่อมโยงบริการภาครัฐสู่ประชาชนกลุ่มเปราะบางได้อย่างแท้จริง และเป็นกำลังสำคัญในการดูแลสวัสดิการสังคมในระดับพื้นที่ วันนี้ อยากให้กำลังใจ อพม. ทุกท่าน นอกเหนือจากสุขภาพกายและใจ การทำหน้าที่ในครอบครัวหรือในชุมชน ซึ่งตนเชื่อว่าการที่ อพม. ทำงานเพื่อสังคมจะนำพาให้ท่านเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิต และหวังว่า อพม. ทุกท่านจะได้นำความรู้ ทักษะการปฏิบัติงานที่ได้รับจากโครงการนี้ ไปใช้ในการทำงานกับกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ได้อย่างถูกต้อง มีคุณภาพมาตรฐานต่อไป
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #อพม #อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ #คนพิการ #ผู้สูงอายุ