วันอังคารที่ 17 มิถุนายน 2568
“ดีพร้อม” ให้กำเนิด! ฮีโร่แบรนด์คราฟต์ไทย สร้างฐานการผลิต เชื่อมโยงคราฟต์ไทยสู่ตลาดสากล ตามนโยบาย รมว.เอกนัฏ คาดเกิดมูลค่า ศก. กว่า 100 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 4 มิถุนายน 2568 - นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์แฟชั่น จากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล (Fashion Identity) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “Born to Brand Born to Shine: เปิดพลังคราฟต์ สู่แบรนด์ฮีโร่” โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ประสพชัย พัฒน์โรจนโสภณ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยมหาวิทยาลัยศิลปากร ดร.นันท์ บุญยฉัตร ผู้อำนวยการกองพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ (DIPROM) ผู้ประกอบการ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องไฮเดรนเยีย 3 โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมและยกระดับภูมิปัญญาไทยสู่วัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทย (Soft Power) ผ่านการใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน (Local Wisdom) และทุนทางวัฒนธรรมของไทย ซึ่งอุตสาหกรรมแฟชั่นมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยในปี 2564 มีมูลค่าการส่งออกกว่า 2.0 แสนล้านบาท เกิดการสร้างรายได้ราว 3.9 แสนล้านบาท และจ้างงานราว 7.5 แสนคน และจุดแข็งที่สำคัญของแฟชั่นไทย คือ การมีวัตถุดิบที่คุณภาพ เป็นฐานการผลิตสินค้าแฟชั่นให้กับแบรนด์ระดับโลก รวมถึงมีเอกลักษณ์และโดดเด่นไม่เหมือนใคร สามารถผสมผสานวัฒนธรรมและเสน่ห์ของความเป็นไทยเข้ากับเทรนด์แฟชั่นสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
“ดีพร้อม” จึงได้ร่วมมือกับภาคเอกชนภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านแฟชั่น ดำเนินกิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและนักออกแบบในอุตสาหกรรมแฟชั่น สาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ให้มีองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการเสริมสร้างภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นที่มีรากฐานมาจากทุนทางวัฒนธรรมของไทยให้มีความทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแฟชั่นในปัจจุบัน มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ระดับสากล ตามนโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
กิจกรรมดังกล่าวฯ เป็นกิจกรรมที่เพิ่มศักยภาพของบุคลากรในสาขาหัตถอุตสาหกรรมไทย ครอบคลุมสาขางานผ้าพื้นเมือง งานปัก เครื่องหนัง เซรามิก เครื่องจักสาน และอื่น ๆ มุ่งเน้นการบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับการออกแบบร่วมสมัย จำนวน 27 กิจการ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ทั้งในประเทศและระดับสากล พร้อมทั้งสร้างเรื่องราวแบรนด์ (Storytelling) และอัตลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์ไทยผ่านการฝึกอบรมเชิงลึกทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต การศึกษาดูงาน และการใช้กลยุทธ์การตลาด การสื่อสารเพื่อนำไปสู่การเพิ่มยอดขายสินค้า พร้อมทั้งสร้างให้โอกาสโตไกลและเชื่อมโยงสู่ตลาดโลก THAI Craft to the WORLD อย่างยั่งยืน ซึ่งสอดรับกับนโยบายของ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งปฏิรูปอุตสาหกรรมด้วยการเสริมแกร่งห่วงโซ่อุปทาน สร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ พัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทยสู่สากล โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 100 ล้านบาท