วันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568
รัฐมนตรีฯ เอกนัฏ เปิดวิสัยทัศน์อุตสาหกรรมไทย เดินหน้าปฏิรูปอุตฯ ในงาน AMCHAM’s Member Luncheon
11 มิถุนายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน AMCHAM’s Member Luncheon จัดขึ้นโดยหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (American Chamber of Commerce in Thailand: AMCHAM) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเครือข่ายธุรกิจสำหรับผู้บริหารบริษัทที่เป็นสมาชิกของ AMCHAM โดยมี ดร. ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ เมอเวนพิค บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ
งาน AMCHAM’s Member Luncheon จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยมีผู้เข้าร่วมงาน ประมาณ 200 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารบริษัทต่าง ๆ ที่เป็นสมาชิกของ AMCHAM จำนวน 150 คน และนักเรียนระดับมหาวิทยาลัยในโครงการทุนการศึกษามูลนิธิหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย รวมถึงนักเรียนระดับอาชีวศึกษา จำนวน 40 คน ซึ่งในปีนี้ได้เรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ Thailand ‘s Industrial Future เนื่องจากส่วนใหญ่สมาชิกภาคเอกชนต้องการรับทราบนโยบายและวิสัยทัศน์ด้านอุตสาหกรรมของประเทศไทยในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเดินหน้าปฏิรูปอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง เพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาฐานอุตสาหกรรมให้ ยืดหยุ่น มีนวัตกรรม และยั่งยืน โดยรัฐบาลมุ่งยกระดับมาตรฐานและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านการปรับปรุงกฎระเบียบให้โปร่งใสและง่ายขึ้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ รัฐบาลกำลังจัดการกับปัญหา อุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ สินค้าด้อยคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ขายในตลาดทั่วไปและสินค้าออนไลน์ รวมทั้งปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนให้คล่องตัวและโปร่งใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นการ ถ่ายทอดเทคโนโลยี และการพัฒนาบุคลากร โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น AI และเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อสร้างแรงงานที่มีคุณภาพ ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนผ่านสู่ พลังงานสะอาด เช่น พลังงานชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์และลม โดยมีเป้าหมาย ลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิล และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 ทั้งนี้รัฐบาลได้มอบสิทธิประโยชน์มีเพื่อสร้างแรงจูงใจแก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย