วันที่ 11 มิถุนายน 2568 นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเชิงวิชาการระดับภูมิภาค เรื่อง นโยบายการขับเคลื่อนสังคมสูงวัยแบบมีส่วนร่วมด้วยการบูรณาการบนแนวทางระหว่างรุ่นในประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสาม (The ASEAN+3 Regional Conference on Integration Policy in Fostering an Inclusive Aging Society through an Intergenerational Approach)โดยมี นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวรายงาน ทั้งนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ปัทพร สุคนธมาน รองคณบดีวิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้แทนจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสาม และติมอร์ เลสเต เข้าร่วม ณ โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ โฮเต็ล ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร
นางจตุพร กล่าวว่า ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา โครงสร้างประชากรอาเซียนได้เปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นสังคมสูงวัยอย่างมีนัยสำคัญ สัดส่วนประชากรสูงอายุในกลุ่มประเทศบวกสามต่างเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จากเดิมร้อยละ 8.1 ในปี 2544 เป็น ร้อยละ 15.1 ในปี 2565 การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรส่งผลให้ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ครอบคลุมมากขึ้น เพื่อสร้างความครอบคลุมทางสังคม ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยสูงอายุ โดยการสูงวัยไม่ควรถูกมองว่าเป็นเพียงความท้าทายที่เผชิญโดยภาคส่วนใดภาคส่วนหนึ่ง ในขณะที่ขนาดครอบครัวเล็กลง และโครงสร้างทางประชากรซับซ้อนมากขึ้น การมีความตระหนักและเตรียมการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้วยระบบสนับสนุนที่ครอบคลุมนั้น เป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างสังคมที่พร้อมรับการปรับตัวต่อความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวได้
นางจตุพร กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายเชิงบูรณาการ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างรุ่น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ที่นำไปสู่การสร้างสังคมสูงวัยที่ครอบคลุมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การขับเคลื่อนนโยบายเชิงบูรณาการเพื่อสร้างสังคมสำหรับทุกวัยผ่านแนวทางระหว่างรุ่น ยังสำคัญต่อการสร้างโอกาสและเสริมพลังคนทุกรุ่นให้เป็นผู้ที่มีบทบาทเชิงรุกในภาคสังคมและเศรษฐกิจ โดยอาศัยการร่วมคิดออกแบบและขับเคลื่อนนโยบาย ระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ภาควิชาการ ชุมชน และแม้แต่ตัวผู้สูงอายุ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงแค่เป็นบุคคลที่รับบริการ แต่เป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลง ผู้คิดค้นนวัตกรรมและผู้มีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
นางจตุพร กล่าวต่อไปว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ของประชาคมอาเซียน พ.ศ. 2568 ได้มีการกล่าวถึงประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน จะเป็นสังคมที่มีส่วนร่วมและยังประโยชน์ให้แก่ประชาชน มุ่งสร้างสังคมที่ครอบคลุมที่สนับสนุนการเข้าถึงโอกาสสำหรับคนทุกคนอย่างมีคุณภาพ เท่าเทียมและเป็นธรรม ตลอดจนปกป้องสิทธิมนุษยชนของสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง นอกจากนี้ ในการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนบวกสามด้านสวัสดิการสังคมและการพัฒนา ครั้งที่ 19 ได้ระบุถึงขอบเขตความร่วมมือที่ครอบคลุมการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านความคุ้มครองทางสังคมและการเสริมพลังผู้สูงอายุ ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวง พม. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ได้ร่วมกันคิดและขับเคลื่อนนโยบาย 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร มุ่งเน้นการเสริมพลังให้คนทุกรุ่นและสร้างความเข้มแข็งของสัมพันธภาพภายในครอบครัวที่เป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ ดังนั้น การประชุมครั้งนี้ จะได้เห็นการร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ความท้าทาย โอกาสต่าง ๆ ของสังคมสูงวัยทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้สูงอายุและคนทุกรุ่นท่ามกลางวิกฤตประชากร และเพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า โดยให้ประชาคมอาเซียนเป็นประชาคมแห่ง “หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม” (One Vision, One Identity, One Community)
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5x5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #สังคมสูงอายุ #อาเซียนบวกสาม