วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานการประชุมหารือเตรียมการจัดงาน “อุตสาหกรรมแฟร์” มหกรรมสินค้าโรงงาน ซื้อของไทย ใช้ของดี ครั้งที่ 2/2568 ร่วมด้วย นายศุภกิจ บุญศิริ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม นายวิทยา ยาม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายฐากูร อินทรชม รองผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย และนายวัชรพงษ์ แต้มทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมความร่วมมือภาครัฐและเอกชน บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) นางสุชาดา โพธิ์เจริญ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นางดวงดาว ขาวเจริญ นายสุรพล ปลื้มใจ และนายดุสิต อนันตรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม เข้าร่วม ณ ห้องประชุมชุณหะวัณ ชั้น 3 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

การประชุมในครั้งนี้ ได้ร่วมกันพิจารณา การแบ่งโซนพื้นที่จัดงานเกือบเต็มพื้นที่ของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยแบ่งเป็น 3 โซน ได้แก่ โซน O จัดงานมอเตอร์โชว์ และจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กีฬา โซน G สินค้าบริโภคเครือสหพัฒน์ สินค้า SMEs และ OTOP ที่กระทรวงอุตสาหกรรมส่งเสริมสนับสนุน ส่วนโซน M (ชั้นลอย) จำหน่ายสินค้าอุปโภค เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ในเครือสหพัฒน์ 2) ด้านการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและประชาชนที่มาเข้าชมงาน 3) กิจกรรมเดินวิ่ง และกิจกรรมต่าง ๆ ภายในงาน อาทิ การแสดงดนตรี/คอนเสิร์ต การจัดพิธีลงนามความร่วมมือ การมอบวุฒิบัตร การประกวด การอบรม/สัมมนา ฯลฯ เพื่อสร้างการรับรู้และให้คนมาร่วมงานมากยิ่งขึ้น และ 4) การประชาสัมพันธ์และการเดินทางผ่านระบบขนส่งมวลชน อาทิ รถไฟ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดง ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจับมือกับ กระทรวงคมนาคม และบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่มีบริษัทในเครือรวมกว่า 180 ราย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวขึ้น

สำหรับงาน “อุตสาหกรรมแฟร์” มหกรรมสินค้าโรงงาน ซื้อของไทย ใช้ของดี มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม - 3 สิงหาคม 2568 รวมระยะเวลา 4 วัน ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนซื้อสินค้าราคาโรงงานจากผู้ผลิต รวมทั้งลดภาระค่าครองชีพ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SMEs และ OTOP โรงงานผู้ผลิตนำสินค้าที่มีคุณภาพมาจัดจำหน่ายโดยตรง อันเป็นการเปิดโอกาสในด้านการตลาด ซึ่งสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ที่เป็นที่จัดงานครั้งนี้ถือเป็นศูนย์กลางของการคมนาคม และมีศักยภาพในการใช้เป็นสถานที่จัดงานต่าง ๆ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งเสริมการพัฒนาระบบรางและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย