นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมากล่าวหารัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ว่า เพิกเฉยและไม่สนใจความเดือดร้อนหรือความสูญเสียของประชาชนในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ ในการแก้ปัญหารถโดยสารประสบอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั้น โดยการออกมากล่าวหาของโฆษก พปชร. ดังกล่าว ถือว่าไม่ทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงที่เป็นความจริง เป็นข้อมูลมั่วในหลายเรื่อง ไม่ทราบว่าไปรับข้อมูลมาจากที่ใด เพราะการกระทำเช่นนี้ อาจทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน เรียกได้ว่าเป็นการสร้างข่าวปลอม (เฟคนิวส์) ในสังคมไทย
ทั้งนี้ ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมพร้อมรับฟังทุกแนวคิดและข้อเสนอแนะดี ๆ ของทุกฝ่าย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่บิดเบือนข้อมูล หรือสร้างความเสียหาย และสร้างความเข้าใจผิดต่อพี่น้องประชาชน อย่างเช่นเดียวกับการออกมากล่าวหาของ พล.ต.ท. ปิยะ ในครั้งนี้ ที่ไม่ได้พิจารณาเรื่องราวโดยละเอียด ไม่สมกับการเคยปฏิบัติวิชาชีพตำรวจมาก่อน ซึ่งนับว่าการกระทำดังกล่าวน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีวุฒิภาวะทางสังคม และไม่ได้คำนึงถึงประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนเป็นลำดับต้น ๆ ด้วย
นายกฤชนนท์ กล่าวต่อว่า การที่ พล.ต.ท. ปิยะ หยิบยกเอากรณีอุบัติเหตุรถบัสโดยสารประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกและเกิดเพลิงลุกไหม้ บริเวณถนนหลวงหมายเลข 304 (สี่แยกกบินทร์บุรี - วังน้ำเขียว กม. ที่ 208+600) ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มาสร้างข้อมูลเท็จ โดยระบุว่ารถบัสที่เกิดอุบัติเหตุเกิดไฟไหม้ มีต้นเหตุมาจากการติดตั้งระบบก๊าซ NGV ซึ่งเรื่องนี้ ขอชี้แจงว่าจากการรายงานของกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดดีเซล (ไม่ใช่ NGV) และอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ส่วนเรื่องรถโดยสารสาธารณะต้องติดตั้งลิ้นปิด - เปิดอัตโนมัติ (โซลินอยด์วาล์ว) ก็ดำเนินการติดตั้งอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เพิกเฉยต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และมีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนการคมนาคมของประเทศไทยให้ดีขึ้น โดยตลอดระยะเวลาในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำงานกันเต็มที่มาอย่างต่อเนื่องในการป้องกันและกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยในทุกมิติ เพื่อแก้ไขปัญหารถโดยสารประสบอุบัติเหตุให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของพี่น้องประชาชน เพื่อยกระดับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และลดอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างมีประสิทธิภาพ