จัดใหญ่ 28 - 30 มี.ค.นี้ ยกระดับ “เทศกาลเมืองครามสกลนคร” ปี68 “สุดาวรรณ” ชวนคนไทยสนับสนุนผ้าย้อมครามสกลนคร ดันผลิตภัณฑ์ครามท้องถิ่นสู่สากล กระตุ้นท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม – บูมเศรษฐกิจภาคอีสาน เผยปี 67 สร้างรายได้เข้าจังหวัดกว่า 711 ล้านบาท
 
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า วธ.ได้พิจารณาคัดเลือกเทศกาลประเพณีในจังหวัดต่างๆ 3 เทศกาลประเพณี ได้แก่ 1.เทศกาลเมืองครามสกลนคร “Kram & Craft โลก” จ.สกลนคร 2.เทศกาลหนังใหญ่วัดขนอนและมหกรรมหนังเงานานาชาติ จ.ราชบุรี และ 3.เทศกาลภูเก็ตเมืองสร้างสรรค์ “Kebaya Festival” จ.ภูเก็ต เพื่อยกระดับให้เป็นที่รู้จักระดับชาติและนานาชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568 โดยคัดเลือกเทศกาลประเพณีที่มีความโดดเด่นมีศักยภาพมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์โดดเด่นในมิติต่างๆ และเล็งเห็นว่าส่งเสริมและยกระดับให้เป็น Soft Power โดยเฉพาะด้านเฟสติวัล เทศกาลประเพณีและด้านท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลและส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก นอกจากนี้ วธ.มีเป้าหมายส่งเสริมคุณค่าและมูลค่าเทศกาลประเพณีให้ประเทศไทยเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวสามารถวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอด ทั้งปี ที่สำคัญนำทุนทางวัฒนธรรม พัฒนาสู่ทุนทางเศรษฐกิจในการสร้างงาน สร้างรายได้สู่ชุมชน รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศไทยในเวทีนานาชาติ
 
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดเทศกาลเมืองครามสกลนคร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสกลนคร ร่วมบูรณาการกับทุกภาคส่วน อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสกลนคร สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสกลนคร สำนักงานการท่องท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนครและเทศบาลนครสกลนคร สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ขอนแก่น (องค์การมหาชน) ตลอดจนส่วนราชการและภาคเอกชนต่างๆ ระหว่างวันที่ 28 - 30  มีนาคม 2568 ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร อย่างที่ทุกทราบกันว่าจังหวัดสกลนครมีผ้าย้อมครามสกลนครได้ขึ้นทะเบียน GI เป็นสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดมีความโดดเด่น สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยปี 2567 สร้างรายได้ให้กับจังหวัดสกลนครติดหนึ่งใน 3 ของผลิตภัณฑ์ OTOP ของจังหวัดโดยมีมูลค่าการจำหน่าย กว่า 711 ล้านบาท ที่สำคัญสภาหัตถศิลป์โลก (World Crafts Council) ประกาศรับรองให้จังหวัดสกลนครเป็น “นครหัตถศิลป์โลกเจ้าแห่งครามธรรมชาติ” (World Craft City for Natural Indigo) เมื่อปี 2561 ถือเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยและเป็นหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ได้รับการรับรอง
 
“ขอเชิญชวนทุกคนมาเที่ยวชมเทศกาลเมืองครามสกลนคร เพื่อสนับสนุนและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากคราม และชมการแสดงทางวัฒนธรรม โดยภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ การเสวนา Kram & Craft กิจกรรม Young Designers การประกวดผ้าครามและผลิตภัณฑ์จากคราม การออกร้านผ้าครามและผ้าอัตลักษณ์โดดเด่นจากจังหวัดกลุ่มจังหวัดในภาคอีสาน การแสดงแบบผ้าคราม/ผ้าพื้นถิ่น การแสดงศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยและศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การจัดทำจุดเช็คอิน รวมถึงกิจกรรม workshop งานครามทำมือ (Kram Handmade) และยังมีการกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์จังหวัดสกลนคร การจัดจำหน่ายสินค้า GI นิทรรศการครามละเบ๋อ (ดอนกอยโมเดล) นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง คาราวานอาหารของดีเมืองสกลนคร รวมทั้งกิจกรรมวิ่งท่องเมืองสกล ยลเมือง 3 ธรรม (ธรรมะ ธรรมชาติ และวัฒนธรรม)” รมว.วธ. กล่าว 
 
รัฐมนตรีว่าการ วธ. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จุดมุ่งหวังของ วธ.ในการประกาศยกระดับเทศกาลเมืองครามสกลนคร เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในภาคอีสาน สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ครามท้องถิ่นสู่สากล สร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการไหลเวียนของเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวภูมิภาคและต่างประเทศ ที่สำคัญเชื่อว่าจะยกระดับเทศกาลสู่ระดับชาติและระดับนานาชาติ สร้างมูลค่าเพิ่มครามเมืองสกลนครสู่ต่างประเทศให้สมกับที่เป็น “นครหัตถศิลป์โลกเจ้าแห่งครามธรรมชาติ”