โดยมี พลเอก ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ นางสาว เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนผู้บัญชาการเหล่าทัพ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงสำนักงานปลัด กระทรวงกลาโหม ผู้บริหารของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์  วิจัย และนวัตกรรม คณาจารย์ นักวิจัย ผู้ทรงคุณวุฒิ และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน

สำหรับการเปิดงาน “นิทรรศการความร่วมมือการวิจัยและพัฒนาเพื่อความมั่นคง” ในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายหลัก ๔ ประการคือ
๑. เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่ผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านความมั่นคง ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทัพ รวมถึงขยายผลการวิจัยสู่การนำไปใช้ประโยชน์ด้านความมั่นคงและเชิงพาณิชย์ (Dual Use Technology) เพื่อสนับสนุนการพึ่งพาตนเองของประเทศ
๒. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านการวิจัยและนวัตกรรม ทั้งนักวิจัย นักนวัตกร และนักศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้อง ให้มีความรู้และทักษะที่ตอบสนองต่อการพัฒนาของอุตสาหกรรมความมั่นคง
๓. เพื่อสร้างความร่วมมือและเครือข่ายในการวิจัยและพัฒนา ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและกองทัพ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศทั้งในด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ
๔. เพื่อสร้างความตระหนักให้กับประชาชนและสังคมในความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศ และลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากรัฐบาลไทยเล็งเห็นความสำคัญของการวิจัยและพัฒนาเพื่อความมั่นคงของชาติ จึงได้มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น กระทรวงกลาโหม จึงได้ร่วมมือกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ เหล่าทัพ กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก (สวพ.ทบ.) สำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ (สวพ.ทร.)และศูนย์วิจัยพัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีการบินและอวกาศกองทัพอากาศ (ศวอ.ทอ.) ในการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมด้านยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศ จนสามารถสร้างผลงานที่นำไปใช้ได้จริงในภารกิจสำคัญของกองทัพและ ได้จัดพิธีส่งมอบผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือนี้ให้กับกองทัพ รวมทั้งสิ้น ๓๖ ชิ้น ครอบคลุมทั้งงานวิจัยด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศโดยตรง รวมถึงผลงานที่สามารถนำไปปรับใช้ในบริบทอื่น ๆ ในลักษณะเทคโนโลยีแบบสองทาง (Dual-use Technology) เช่น การจัดการภัยพิบัติและการดูแลทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านความมั่นคง รวมทั้งสิ้น ๕๖ ชิ้น  แบ่งเป็นผลงานภายใต้ความร่วมมือที่พร้อมส่งมอบจำนวน ๓๖ ชิ้น และผลงานจากเหล่าทัพต่าง ๆ ที่มาร่วมจัดแสดงอีก ๒๐ ชิ้น การจัดแสดงแบ่งออกเป็น ๑๐ โซน ครอบคลุมในหลาย ๆ ด้าน เช่น ระบบอำนวยการรบ ปืนเล็ก ปืนประจำกาย ระบบรถถังและปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานระบบฝึกซ้อมรบ, ระบบเรดาร์และโซนาร์ UAVระบบรักษาความมั่นคงบริเวณชายแดน และนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์แบบสองทาง (Dual - use Technology) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการวิจัยและพัฒนาที่สามารถตอบโจทย์ด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และการนำไปประยุกต์ใช้ในด้านอื่นๆได้อย่างหลากหลาย

นอกจากนี้ ในช่วงบ่ายยังได้จัดให้มีการเสวนาในหัวข้อ "เทคโนโลยีเรดาร์ โซนาร์ และประโยชน์สองทางเพื่อความมั่นคง" โดยมีผู้แทนจาก ภาครัฐ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้าใจในแนวทางการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ และขยายการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้ในภาคส่วนต่างๆ

อย่างไรก็ตามพิธีส่งมอบและการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อความมั่นคง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงกลาโหมจะยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และกองทัพ เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศในด้าน

#กระทรวงกลาโหม #สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม #กองทัพไทย #กองบัญชาการกองทัพไทย #กองทัพบก #กองทัพเรือ #กองทัพอากาศ #ทหารบก #ทหารเรือ #ทหารอากาศ #เหล่าทัพ