วันนี้ (วันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2568) เวลา 10.00 น. ณ ห้องโดมทอง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางเอทิริสิงเห อารัจจิลาเค ศรียานี วิชยันติ เอทิริสิงเห (H.E. Mrs. Edirisinghe Arachchilage Sriyani Wijayanthi Edirisinghe) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาประจำประเทศไทย เข้าพบหารือกับนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อหารือประเด็นส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและความท้าทายระหว่างกัน โดยสรุปสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
เลขาธิการนายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ พร้อมแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง เชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ จะมีส่วนสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับศรีลังกาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยไทยและศรีลังกามีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมาอย่างยาวนาน บนพื้นฐานความสัมพันธ์ทางพระพุทธศาสนา ซึ่งในปี 2568 นี้ ไทยกับศรีลังกาจะได้เฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน รวมถึงมีการจัดกิจกรรมร่วมกันเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าวด้วย และในโอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม BIMSTEC ในเดือนเมษายน 2568 นี้ ไทยพร้อมให้การต้อนรับประธานาธิบดีศรีลังกาเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
เอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ขอบคุณเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับศรีลังกามีความใกล้ชิด และมีความคืบหน้าในความร่วมมือระหว่างกัน พร้อมเชิญเลขาธิการนายกรัฐมนตรีร่วมงานเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 70 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ศรีลังกา ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ได้กล่าวถึงโครงการริเริ่มต่าง ๆ ของรัฐบาลศรีลังกา โดยเฉพาะโครงการ “Clean Sri Lanka” ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มเพื่อยกระดับและสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับศรีลังกา โดยมุ่งเน้นความยั่งยืนใน 4 ด้าน ได้แก่ Environmental Sustainability, Social Sustainability, Governance Sustainability และ Economic Sustainability โดยหวังว่าฝ่ายไทยจะพิจารณามีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าว
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นความร่วมมือทวิภาคีและความท้าทายระหว่างกัน ดังนี้
1) การค้าการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อการลงนามความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกา และพร้อมร่วมกันผลักดันการดำเนินกระบวนการภายในให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม 2568 ร่วมกันได้ตามเป้าหมาย โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ความตกลงดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ ช่วยให้สินค้าจากศรีลังกาเข้าสู่ตลาดอาเซียน และสินค้าจากไทยเข้าสู่ตลาดเอเชียใต้ได้ พร้อมทั้งขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างไทยกับศรีลังกาให้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
2) การท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและศรีลังกามีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนที่ใกล้ชิด โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ชื่นชมมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวของไทยที่มีประสิทธิภาพ และต้องการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีด้านการท่องเที่ยวจากไทย ซึ่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรียินดีและพร้อมให้มีการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติของไทย เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของศรีลังกา
3) ช้างไทยในศรีลังกา ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 2 เชือก โดยเลขาธิการนายกรัฐมนตรีพร้อมร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ต่าง ๆ กับฝ่ายศรีลังกาในการดูแลช้าง ซึ่งฝ่ายศรีลังกาพร้อมร่วมมือกับฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
4) ประเด็นความท้าทาย เอกอัครราชทูตศรีลังกาฯ ขอบคุณฝ่ายไทยที่ให้ความช่วยเหลือชาวศรีลังกาที่ถูกบังคับให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ ที่จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา พร้อมขอให้ฝ่ายไทยช่วยเหลือชาวศรีลังกาที่ติดค้าง โดยเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อประเด็นดังกล่าว เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยต่อประชาชนและนักท่องเที่ยวในประเทศไทย