วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568
นายวีระพงษ์ ประภา ผู้แทนการค้าไทย เข้าร่วมการประชุมหารือระดับสูง ส่งเสริมความร่วมมือในอาเซียน เพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจยุคใหม่
เมื่อวันที่ 14 - 15 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา นายวีระพงษ์ ประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะผู้แทนการค้าไทย ได้เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมระดับสูง ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเพื่ออาเซียนและเอเชียตะวันออก (Economic Institute for ASEAN and East Asia – ERIA) การประชุมดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การค้าและอุตสาหกรรมของประเทศสมาชิกอาเซียนในบริบทของการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ และความท้าทายใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจระดับโลก ตลอดจนเพื่อสร้างเครือข่ายระหว่างผู้มีส่วนร่วมกำหนดนโยบาย นักวิชาการ และผู้ปฏิบัติ โดยมีผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วม อาทิ นาย Akira Amari อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น นาย Chatib Basri อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย นาย Ossy Dermawan รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรอินโดนีเซีย และนางพันทิพา เอี่ยมสุทธา เอกะโรหิต เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน
ที่ประชุมได้หารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นสำคัญ อาทิ บทเรียนจากการเจรจาการค้าและการส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในบริบทการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ การวางยุทธศาสตร์นโยบายอุตสาหกรรมภายใต้บริบทเศรษฐกิจโลกยุคใหม่ และการส่งเสริมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในสาขาเซมิคอนดักเตอร์
ในโอกาสนี้ นายวีระพงษ์ ประภา ผู้แทนการค้าไทยได้ร่วมนำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายอุตสาหกรรมสำหรับอนาคต โดยเน้น 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1) การดำเนินนโยบายการค้าและอุตสาหกรรมที่ไม่ส่งผลเป็นการกีดกันทางการค้า เพื่อให้ทุกประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน 2) การกำหนดนโยบายการค้าและอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่ เน้นความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างภาครัฐกับเอกชน การส่งเสริมศักยภาพและการอำนวยความสะดวกทางการค้า/การลงทุน แทนการให้เงินอุดหนุน ตลอดจนการส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคบริการนอกเหนือไปจากภาคอุตสาหกรรมการผลิต และ 3) การส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และเศรษฐกิจดิจิทัล
ข้อมูลและข้อเสนอแนะจากการประชุมในครั้งนี้ เป็นพื้นฐานสำคัญในการนำไปพัฒนานโยบายการค้าและอุตสาหกรรมของไทยที่ตอบโจทย์กับเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตลอดจนช่วยให้ไทยสามารถเตรียมความพร้อมในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเซมิคอนดักเตอร์ ช่วยสร้างโอกาสให้ไทยเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีขั้นสูงในภูมิภาคได้ นอกจากนี้ การเสริมสร้างความร่วมมือในอาเซียนยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในระดับโลก ลดการพึ่งพาตลาดเดี่ยว และเปิดโอกาสในการลงทุนใหม่ ๆ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
ข่าวกระทรวง
วาระงาน