ในวันจันทร์ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๔.๓๐ น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และผู้แทนกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ให้การต้อนรับกลุ่มเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง พร้อมทั้งอดีตเยาวชนจากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ในนามกลุ่มผู้ถูกเจียระไน เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพเยาวชน มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว และเครือข่ายองค์กรด้านเด็กและเยาวชน ที่เดินทางเข้าพบเพื่อขอบคุณที่ผลักดันร่างกฎกระทรวง มาตรา ๕๕ ของ พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๓๓ เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี และมีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ ห้องรับรอง ชั้น ๒ อาคารกระทรวงยุติธรรม 

โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับมอบของที่ระลึกและแจกัน “เสน่ห์รอยร้าว” จากตัวแทนเครือข่ายฯ เพื่อยืนยันเชิงสัญลักษณ์ว่า ความผิดพลาดของเด็กและเยาวชนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซ่อมได้และคืนคุณค่ากลับมาได้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เป็นความพยายามของคนในอดีตหลายคน โดยเฉพาะตัวอย่างที่บ้านกาญจนาฯ ซึ่งเป็นการพัฒนาคน โดยกระทรวงยุติธรรมมีกลุ่มภารกิจด้านพัฒนาพฤตินิสัย ประกอบด้วย กรมคุมประพฤติ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่มีการรอคอยหลังจากกฎหมายเกิดขึ้นมา ๑๓ ปี เนื่องจากเรามองว่ารูปแบบของบ้านหรือสถานพัฒนาฝึกอบรมเด็กและเยาวชน ตามกฎหมายควรมีความหลากหลาย มิใช่อยู่ในราชการอย่างเดียว และต้องมีความเหมาะสมกับบริบทในการพัฒนาคน ทั้งนี้ รัฐบาลและกระทรวงยุติธรรมมีความประสงค์ที่อยากจะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในความยุติธรรมทุกขั้นตอน โดยวันนี้ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่จะผลักดันกระบวนการยุติธรรมที่เป็นทางเลือกหรือยุติธรรมสมานฉันท์ ซึ่งควรจะได้รับการยอมรับและมีการใช้กันมากขึ้น เพราะเป็นการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของทุกฝ่าย วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญและต้องภูมิใจแทนน้อง ๆ เยาวชนที่ได้ผลักดันเรื่องนี้ขึ้นมา ถือเป็นการยกระดับสิทธิและเสรีภาพของเยาวชนอีกก้าวหนึ่งด้วย 

ในการนี้ อดีตเยาวชนศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ในนามกลุ่มผู้ถูกเจียระไน ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมทั้งได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดังต่อไปนี้ ๑) ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และอธิบดีกรมพินิจฯ รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ที่มีมติเห็นชอบกฏกระทรวงตามมาตรา ๕๕ ด้วยเห็นถึงความสำคัญของกระบวนการทำงานของบ้านกาญจนาภิเษกที่ลดการกระทำผิดซ้ำของเยาวชน และขอให้เร่งขยายผลการทำงานของศูนย์ฝึกบ้านกาญจนาภิเษกให้เข้าไปถึงสถานพินิจฯ หรือศูนย์ฝึกฯ อื่น ๒) ควรสนับสนุนพัฒนาให้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก ทำหน้าที่อีกด้านหนึ่งให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางสังคม (social lab) เปิดพื้นที่ให้หน่วยงานผู้ทำงานด้านเด็กและเยาวชนได้เข้ามาศึกษาดูวิธีการทำงานของผู้บริหาร ครู เจ้าหน้าที่ ผู้ดูแลศูนย์ฝึกและศึกษากระบวนการที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนระบบความคิดของเยาวชนผู้ก้าวพลาดให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีภูมิคุ้มกันที่พร้อม ๓) ขอให้มีการจัดตั้งกองทุนหรือระบบเงินกู้ยืม คล้ายกับกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือ กยศ. เพื่อให้เด็กและเยาวชนผู้ก้าวพลาดได้มีโอกาสกู้ยืมเงินเพื่อเป็นต้นทุนชีวิต ใช้ตั้งหลักในการประกอบอาชีพ มีระบบพี่เลี้ยงติดตามให้สามารถส่งคืนตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ และสุดท้ายนี้ ขอวิงวอนให้สังคมให้โอกาสให้เยาวชนที่หลงผิดก้าวพลาดที่ผ่านการดูแลที่ถูกต้องด้วยความเข้าใจ มีโอกาสที่จะได้หางานหรือได้สมัครทำงานได้ตามความสามารถหรือความตั้งใจ รวมถึงการมีโอกาสสมัครงานเป็นข้าราชการเพื่อได้รับใช้และช่วยเหลือสังคมได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป 

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะรับข้อเสนอไปดำเนินการ ซึ่งขณะนี้เรามีนโยบายสำคัญ คือ การพัฒนาระบบที่จะทำให้ผู้ที่ก้าวพลาดรวมถึงเรื่องยาเสพติดไม่กลับเข้าสู่วงจรเดิมและต้องการสร้างคนให้มีคุณภาพ โดยกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีบ้านกาญจนาฯ ที่ช่วยดูแลเยาวชนที่ก้าวพลาด และเชื่อว่าจะเป็นการสร้างอนาคตที่ดีให้ประเทศชาติต่อไป