วันที่ 28 ตุลาคม 2567 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดการประชุม International Conference on Sustainable Communities for All ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์ และแสดงบทบาทด้านการพัฒนาเมือง มิติที่อยู่อาศัย ชุมชนแออัดผู้มีรายได้น้อย ของประเทศไทยในเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ (Urban Renaissance: Empowering Thailand's Low-Income Communities on the Global Stage) โดยความร่วมมือกับโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (UN-Habitat) เพื่อเป็นเวทีในการนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ในด้านการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย รวมถึงการแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดผู้มีรายได้น้อยสำหรับประเทศไทยและประเทศในเอเชียและแปซิฟิก และเพื่อยกระดับประเทศไทยให้มีบทบาทเชิงรุกในด้านการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก โดยมีผู้แทนหน่วยงานด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และการพัฒนาเมืองจากทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เข้าร่วม ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก กรุงเทพมหานคร
นายอนุกูล กล่าวว่า การประชุม “International Conference on Sustainable Communities for All” เป็นโอกาสสำคัญที่ร่วมเฉลิมฉลอง Urban October และวันเมืองโลก (World City Day) ตรงกับวันที่ 31 ตุลาคม 2567 โดยในปี 2567 Urban October ให้ความสำคัญกับบทบาทของเยาวชน ในฐานะที่เป็นผู้นำ ผู้สร้างนวัตกรรม และผู้นำความเปลี่ยนแปลง ซึ่งเยาวชนมีบทบาทสำคัญในการสร้างเมืองที่ยั่งยืนและครอบคลุมสำหรับทุกคน และเป็นโอกาสที่ดีที่ภาคีเครือข่ายจากประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค ได้มารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่สุด คือ “ที่อยู่อาศัย” เป็น "ความมั่นคงในชีวิต" นับเป็นรากฐานสำคัญของความปลอดภัย ความมั่นคง และคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งที่อยู่อาศัยทำให้เราสามารถเข้าถึงการศึกษา สาธารณสุข งานที่ดี และการมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างเต็มที่ สำหรับประเทศไทย ที่อยู่อาศัยถือเป็นปัจจัย 4 ตลอดจนเป็นเสาหลักของความมั่นคงของมนุษย์ ดังนั้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยจึงเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
นายอนุกูล กล่าวว่า ความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยเป็นหัวใจของพันธกิจกระทรวง พม. ซึ่งมีหน้าที่ในการรับประกันว่าประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง จะสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัยและเหมาะสม โดยเฉพาะในยุค VUCA World ซึ่งเต็มไปด้วยวิกฤติการณ์และข้อท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในเขตเมืองและชุมชนที่มีความแออัด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน จากรายงานของสหประชาชาติ ปัจจุบันประชากรโลกมากกว่าร้อยละ 55 อาศัยอยู่ในเขตเมือง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 68 ภายในปี 2030 การเติบโตอย่างรวดเร็วของเมือง ไม่สัมพันธ์กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นด้านที่อยู่อาศัย ส่งผลให้ประชากรหลายล้านคนในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยไม่มีบริการขั้นพื้นฐาน และตกเป็นกลุ่มที่เปราะบางจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นายอนุกูล กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย รัฐบาลได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ภายใต้วิสัยทัศน์ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ภายในปี 2579 (Housing For All)” และมีเป้าหมายให้ทุกคนเข้าถึงที่อยู่อาศัยและยกระดับคุณภาพชีวิตของครัวเรือน จำนวน 1.3 ล้านครัวเรือน โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ได้กำหนดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และบริการสุขภาพมูลค่าสูง ในขณะเดียวกันมุ่งเน้นการสร้างเมืองอัจฉริยะและน่าอยู่ ลดปัญหาความยากจนระหว่างรุ่น และส่งเสริมการคุ้มครองทางสังคมให้กับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและเข้าถึงได้ อีกทั้ง กระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อน “นโยบาย 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร” ที่มุ่งเน้นรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร ด้วยการเชื่อมโยงและบูรณาการกับทุกองคาพยพในสังคม เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว การจัดหาที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย และสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้สำหรับทุกกลุ่ม ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของโครงสร้าง แต่เป็นการเชื่อมโยงกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และความเป็นอยู่ที่ดีของคนในสังคม
นายอนุกูล กล่าวต่ออีกว่า กระทรวง พม. โดยการเคหะแห่งชาติ (กคช.) เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน ควบคู่การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความต้องการในการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกระบวนการก่อสร้างที่ส่งผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ได้ดำเนินโครงการยกระดับชุมชนต้นแบบสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Smart Sustainable Community : SSC) เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการชุมชนของตนเองได้อย่างเป็นระบบ และยกระดับชุมชนให้เป็น Smart Sustainable Community นอกจากนี้ กคช. ได้เน้นย้ำในเรื่องความยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ในโครงการเคหะชุมชนฯ สุพรรณบุรี (อู่ยา 1) รวมถึงทุกโครงการที่อยู่อาศัย โดยเริ่มจากการคัดแยกขยะที่สามารถเปลี่ยนให้เป็นเงินได้ เช่น การนำขยะมาทำเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า รวมไปถึงของตกแต่งบ้านต่าง ๆ ทำให้เกิดเป็นรูปธรรม ด้วยการสร้างรายได้ให้ชุมชน โดยเฉพาะการชักชวนให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมร่วมกัน ถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้สังคมมีคุณภาพ นอกจากนี้ ยังมีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. สังกัดกระทรวง พม. ที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อนำไปสู่การจัดการและพึ่งพาตนเองได้ ผ่านโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยและชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากชุมชน กองทุนสวัสดิการเศรษฐกิจชุมชน และการยกระดับสภาองค์กรชุมชนใน 7,825 ตำบล ทั่วประเทศ โดย พอช. ได้ดำเนินโครงการบ้านมั่นคงเมือง ครอบคลุม 107,569 ครัวเรือน โครงการบ้านมั่นคงชนบท ครอบคลุม 16,476 ครัวเรือน และโครงการบ้านพอเพียง 124,045 ครัวเรือน ในพื้นที่ทั่วประเทศ
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ กระทรวง พม. ได้ดำเนินการโครงการบ้านที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก โครงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ โครงการปรับสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้สูงอายุ ให้เหมาะสมและปลอดภัย สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 11 ที่เรียกร้องให้เมืองและชุมชนทั่วโลกมีความครอบคลุม ปลอดภัย ยืดหยุ่น และยั่งยืน และกระทรวง พม. ยังทำงานร่วมกับพันธมิตรระดับนานาชาติ เช่น หน่วยงานภายใต้องค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะ UN-Habitat เพื่อผลักดัน New Urban Agenda โดยมุ่งเน้นการทำให้ที่อยู่อาศัยเข้าถึงได้ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมในชุมชนแออัด และพัฒนาที่อยู่อาศัยให้มีความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อีกทั้งมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค ซึ่งหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านที่อยู่อาศัยที่คล้ายกัน เช่น การขาดแคลนที่อยู่อาศัย การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว และความเปราะบางต่อสภาพภูมิอากาศ การร่วมมือกันในระดับภูมิภาคจึงเป็นสิ่งจำเป็น
นอกจากนี้ วันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2567 จะมีการประชุม World Urban Forum ครั้งที่ 12 ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ ได้แลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีด้านการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย รวมถึงร่วมกันประกาศเจตนารมณ์ในการสร้างชุมชนที่ยั่งยืน
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #InternationalConferenceonSustainableCommunitiesforAll #ที่อยู่อาศัย #UNhabitat