น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ (27 ก.ย. 67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในคณะของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งนำคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจติดตามการเร่งรัดช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยใน จ.เชียงราย ซึ่งในเวลา 15.50 น. นายอนุทิน ได้ร่วมในการประชุมบูรณาการแผนฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบหลังจากเหตุการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงรายรวมถึงจังหวัดภาคเหนือ ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ณ ห้องประชุมท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง

จากนั้นได้นำคณะผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ประกอบด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ รมช.มหาดไทย นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมในการพื้นที่เพื่อติดตามและเร่งรัดการฟื้นฟูจากสถานการณ์อุทกภัย ให้กำลังใจผู้ประสบภัย เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ โรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย และโครงการบ้านธนารักษ์ กองทัพบก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย

โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยพิบัติจะมาจากทั้งเงินทดรองราชการที่อยู่ในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด และงบกลางที่จัดสรรจากส่วนกลาง โดยกรณีของ จ.เชียงรายนั้น ได้เริ่มให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยซึ่งได้รับความเสียหายตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. - 25 ก.ย. จากเงินทดรองราชการ ดังนี้ ด้านที่อยู่อาศัย ครัวเรือนละ 49,500 บาท จำนวน 104 ครอบครัว ด้านการดำรงชีพ ครอบครัวละ 3,800 บาท จำนวน 24 ครอบครัว กรณีผู้ที่เสียชีวิต ช่วยเหลือรายละ 29,700 บาท จำนวน 5 ราย และเพิ่มให้กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัว 1 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,417,400 บาท

นอกจากนี้ มีส่วนการช่วยเหลือจากงบกลางตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 67 ที่จ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัยใน 57 จังหวัดรวม 3,042.52 ล้านบาท กรณีของ จ.เชียงราย ทางธนาคารออมสินได้โอนเงินให้ผู้ประสบภัยใน ในวันที่ 27 ก.ย. 67 ครัวเรือนละ 5,000 บาท ในพื้นที่ 3 อำเภอ รวมวงเงิน 20,095,000 บาท แยกเป็น 1) อ.เมืองเชียงราย จำนวน 3,701 ครัวเรือนเป็นเงิน 18,505,000 บาท 2) อ.แม่สาย จำนวน 222 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,110,000 บาท และ 3) อ.ขุนตาล จำนวน 96 ครัวเรือน เป็นเงิน 480,000 บาท และในวันที่ 28 ก.ย. 67 จะโอนเงินให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ รวม 15,980,000 บาท ได้แก่ 1) อ.เวียงแก่น จำนวน 645 ครัวเรือน เป็นเงิน 3,225,000 บาท 2) อ.เทิง จำนวน 2,156 ครัวเรือน เป็นเงิน 10,780,000 บาท และ 3) อ.พญาเม็งราย จำนวน 395 ครัวเรือน เป็นเงิน 1,975,000 บาท รวม 2 วันเงินช่วยเหลือถึงผู้ประสบภัยในเชียงราย 6 อำเภอ รวม 7,215 ครัวเรือน วงเงิน 36,075,000 บาท

น.ส.ไตรศุลี กว่าวว่า จากข้อสั่งการของนายอนุทิน ที่ให้ทุกหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยเร่งระดมการช่วยเหลือเข้าไปยังพื้นที่ประสบภัย นายอรรษิษฐ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้แจ้งว่าทางกรมการปกครอง ได้สนับสนุนด้านกำลังพลโดยคัดเลือกสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ที่มีสุขภาพแข็งแรง ในสังกัด บก.อส.จังหวัด จาก 46 จังหวัด ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,490 นาย เข้าร่วมในภารกิจการช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย จ.เชียงราย โดยได้เริ่มปฏิบัติภารกิจตั้งแต่ วันที่ 27 ก.ย. ไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ

ขณะที่นายไชยวัฒน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้รายงานสถานการณ์ใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะที่ อ.แม่สายว่า ระดับน้ำได้ลดลงและเข้าสู่ระยะของการฟื้นฟู ซึ่งส่วนของ ปภ. ทีมปฏิบัติการจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 กำแพงเพชร, เขต 10 ลำปาง, เขต 15 เชียงราย ได้นำเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ทั้งรถล้อยางยกสูง รถขุดตักไฮดรอลิค รถบรรทุกเทท้าย กวาด เกลี่ย ปรับ ตักดินโคลนที่ทับถมถนน อาคารสถานที่ สิ่งสาธารณะประโยชน์ อาคารบ้านเรือนประชาชนและสิ่งสาธารณะประโยชน์ เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว รวมถึงดูแลด้านสาธารณูปโภคโดยนำรถผลิตน้ำดื่มออกให้บริการน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวดและบรรจุใส่ถุงซิปล็อค ส่งมอบให้ผู้ประสบภัยใน จ.เชียงราย และนำรถบรรทุกน้ำเอนกประสงค์ รับน้ำจากการประปาส่วนภูมิภาค เพื่อส่งจ่ายน้ำให้กับพื้นที่ต่าง ๆ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ระหว่างวันที่ 9 - 25 ก.ย. 67 จ.เชียงราย มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจำนวน 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่สาย เมืองเชียงราย เชียงแสน เชียงของ แม่จัน แม่ฟ้าหลวง ดอยหลวง เทิง เวียงแก่น เวียงชัย เวียงป่าเป้า แม่สรวย แม่ลาว รวม 61 ตำบล 52 ชุมชน 495 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบ 56,487 ครัวเรือน เสียชีวิต 12 ราย บาดเจ็บ 3 ราย และสูญหาย 1 ราย ในส่วนของพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายคิดเป็น 18,257 ไร่ สถานที่ราชการได้รับความเสียหายประกอบด้วยโรงเรียน 37 แห่งสถานบริการสาธารณสุข 1 แห่งโรงคัดแยกขยะ 1 แห่ง สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน 10 จุด คอสะพาน 5 จุด ปศุสัตว์ 48,640 ตัว