นายสิริพงศ์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า เป็นเรื่องที่ทาง รมว.ศธ. ( พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ) และ รมช.ศธ. (นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล) ให้ความสำคัญติดตามความคืบหน้ามาตั้งแต่ต้น โดยสั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดูแลอย่างใกล้ชิด และเท่าที่ทราบ สพฐ.ได้ส่งนิติกร ลงไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง และเก็บเอกสารต่าง ๆ มาทำการตรวจสอบที่ส่วนกลางแล้ว โดยหากพบการทำผิดจริง ผู้ทำผิดต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน ซึ่งต้องมาพิจารณาว่าความผิดนั้นเกิดจากอะไร ก็จะมีการดำเนินการตามฐานความผิดนั้น
“จากนี้ก็ต้องมารอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนของชุดคำตอบเพื่อตรวจสอบคะแนนของน้องและผู้ได้รับผลกระทบ รวมทั้งผลการสอบฯ ของหน่วยงานอื่นที่มาร่วมด้วย เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสระแก้ว หากพบว่าคะแนนของน้องถูกต้องตามประกาศครั้งแรก ก็จะพิจารณามาตรการเยียวยาในการบรรจุเป็นพนักงานราชการตามสิทธิ์ ซึ่งในระหว่างการสอบสวนฯ นี้ ทาง สพฐ. ได้มีข้อเสนอให้น้องรับตำแหน่งครูอัตราจ้างในโรงเรียนใกล้บ้าน เพราะเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่ลาออกมาสอบครั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเป็นการชั่วคราว
ขอรับรองว่า จะไม่มีม้วยล้มอย่างแน่นอน เพราะเรื่องนี้ รมว.ศธ.กำชับให้มีการดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และเร่งดำเนินการสอบสวนฯ อย่างเร็วที่สุด ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ซึ่งการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ความจริงมีเพียงอย่างเดียว และเมื่อผลสอบสวนฯ ออกแล้ว จะเชิญน้องและผู้ได้รับผลกระทบอีกรายมาพูดคุยหาทางเยียวยาด้วยเหตุผลต่อไป ทั้งนี้ ทราบว่าขณะนี้ สพฐ. ได้มีคำสั่งให้ ผอ.สพม.สระแก้ว มาปฏิบัติราชการที่สำนักบริหารการมัธยมศึกษา สพฐ. ไว้ก่อน” นายสิริพงศ์ กล่าว
