แก้หนี้ประชาชน ทั้งในระบบและนอกระบบ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ คืนเงินกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ หยุดเงินมหาศาลที่ถูกดูดออกนอกระบบ โดยไม่ต้องใช้งบประมาณรัฐ
หนี้ในระบบ
หนี้ กยศ 3.6 ล้านคน ผู้กู้ 2.98 ล้านคน ได้ประโยชน์ปลดภาระผู้ค้ำ 2.6 ล้านคน หนี้ลด 5.6 หมื่นล้าน
- บังคับใช้กฎหมายใหม่
- ลดเบี้ยปรับจาก 18% เป็น 0.5% ต่อปี
- ปรับลำดับการตัดเงินต้น
- ยุติการฟ้องร้องบังคับคดี
- ปรับโครงสร้างหนี้
หนี้ SME เช้าถึงสินเชื่อ-เติมสภาพคล่อง
- รหัส 21 จำนวน 1.1 ล้านคน ชำระหนี้ ปิดปัญชีไม่เสียประวัติ
- สินเชื่อซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท ผ่านธนาคารออมสินปล่อยกู้ธนาคารพาณิชย์อัตราดอกเบี้ย 0.1% เพื่อกู้ไปปล่อยต่อ SME เงื่อนไขดอกเบี้ย 1-3 ปีแรกไม่เกิน 3.5% กระจายเงินลงระบบ เติมสภาพคล่องการดำเนินธุรกิจ (โดยการบริหารจัดการ ไม่ใช้งบประมาณรัฐและไม่ใช้วงเงินตาม ม.28)
หนี้ข้าราชการ เงินกู้สวัสดิการกำลังพลภาครัฐ 3.1 ล้านคน ยอดมูลหนี้ 3 ล้านล้านบาท (20% ของหนี้ครัวเรือน)
- ลดดอกเบี้ยสอดคล้องความเสี่ยง
- หักเงินเดือนให้มีเงินคงเหลือเพียงพอต่อการครองชีพ
- กำหนดจำนวนงวดและจำนวนเงินให้เป็นไปตามศักยภาพของผู้กู้
- ลดญานเงินกู้ด้วยทุนเรือนหุ้นของตนเอง เพื่อบรรเทายอดเงินผ่อนชำระหนี้รายเดือนตามความจำเป็น
หนี้นอกระบบ
ลงทะเบียนเจ้าหนี้-ลูกหนี้ทั้งประเทศ
1.5 แสนราย เพื่อแจ้งความประสงค์ให้รัฐคุ้มครองสิทธิ ไกล่เกลี่ยและยุติเรื่องได้ครบ 100% รวมระยะเวลาดำเนินการ 109 วัน (18 มิ.ย. 67)
มูลหนี้ลดลง 1.2 พันล้านบาท
หลักการ
ทุกฝ่าย (เจ้าหนี้-ลูกหนี้) ยังคงอยู่ร่วมกัน "ในระบบ" และถูกต้องตามกฎหมายเมื่อจ่ายดอกเบี้ยจนครบต้นและต้องจบ
ลูกหนี้ต้องใช้หนี้ แต่ไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเกินกว่าอัตรากฎหมายกำหนด เจ้าหนี้ได้รับเงินต้นคืนตามสิทธิที่เจ้าหน้าควรได้รับ การปล่อยหนี้ก้อนใหม่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ฝ่ายค้านกล่าวหา ปัญหาคอลเซ็นเตอร์
ตอบ