มูลนิธิกฤตานุสรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์-สำนักนายกรัฐมนตรีมอบทุนการศึกษา 75 ทุนแก่บุตร ธิดาของทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 หนุนลูกหลานผู้เสียสละเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของชาติ
 
วันที่ 10 กันยายน 2567 รองศาสตราจารย์ ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษา“โครงการทุนการศึกษาบุตร ธิดาของทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางลาลีวรรณ  กาญจนจารี รองประธานมูลนิธิกฤตานุสรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์  คณะกรรมการมูลนิธิฯ ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม  แขกผู้มีเกียรติ และบุตร ธิดาของทหาร ตำรวจและอาสาสมัครฯผู้เข้ารับทุน เข้าร่วม ณ ห้องแกลลอรี 2 หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม โดยภายในงานมีการแสดงรำถวายพระพรและนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ
 
เนื่องในปีพุทธศักราช 2567  เป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)และคณะกรรมการมูลนิธิกฤตานุสรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของอาณาประชาราษฎร์ได้ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี จัด“โครงการทุนการศึกษาบุตร-ธิดาของทหาร ตำรวจ และอาสาสมัครที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” และจัดพิธีมอบทุนการศึกษาในวันที่ 10 กันยายน 2567 จำนวน
75 ทุน ณ หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
 
ทั้งนี้ มูลนิธิกฤตานุสรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2523 สืบเนื่องจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงมีพระราชเสาวนีย์ว่า ทรงตระหนักถึงความยากลำบากของครอบครัวทหาร ตำรวจ และอาสาสมัคร ที่นอกจากเป็นผู้เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมุ่งมั่นแก่ประชาชนและประเทศชาติแล้ว เขาเหล่านั้นยังถือเป็นเสาหลักสำคัญของครอบครัว เมื่อเกิดการบาดเจ็บ พิการ ทุพพลภาพ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ดังเดิม หรือร้ายแรงที่สุดคือการสูญเสีย ย่อมส่งผลกระทบต่อครอบครัว ให้ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แม้ว่าทางหน่วยงานราชการและมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้หยิบยื่นความช่วยเหลือมาส่วนหนึ่ง แต่อาจยังไม่เพียงพอต่อการดำเนินชีวิตของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตร-ธิดา เพื่อเป็นการสนองพระราชเสาวนีย์ ดังนั้น คุณหญิงสวลี ชลวิจารณ์ จึงเล็งเห็นประโยชน์ในการจัดตั้งมูลนิธิฯขึ้น
เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตเป็นกุศล มีช่องทางที่สะดวกในการร่วมบริจาคทรัพย์ เพื่อนำไปจัดสรรเป็นทุนการศึกษาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้เสียสละที่เป็นสมาชิกของมูลนิธิสายใจไทยฯและถวายเป็นราชสักการะและส่งเสริมพระราชกรณียกิจสืบไป
 
โดยแต่เดิมในการประชุมคณะกรรมการผู้ก่อตั้งครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2523 ได้ใช้ชื่อว่า “มูลนิธิโครงการศึกษาสงเคราะห์บุตรผู้รักษาความปลอดภัยของประเทศ” ต่อมาภายหลังหม่อมหลวงจิรายุ นพวงศ์ องคมนตรีในขณะนั้น ได้กรุณามอบนามมูลนิธิใหม่ว่า “กฤตานุสรณ์” อันมีความหมายว่า “ระลึกถึงผู้ทำคุณให้แล้ว” โดยตราของมูลนิธิฯ เป็นรูปหนังสือตำราและแสงเทียน สื่อถึงประทีปส่องหาทางดำเนินชีวิต แก่ทายาทผู้พลีชีพเพื่อให้ชาติให้ก้าวหน้าไปสู่ความเจริญวัฒนาอันประกอบด้วยคุณธรรมควบคู่กับด้านวิชาการ
 
นับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งมูลนิธิกฤตานุสรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์จนล่วงมาถึงปีพุทธศักราช 2567  มูลนิธิฯได้มอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่องมาตลอด 44 ปี รวมทั้งหมดกว่า 24,000 ทุน ช่วยให้บุตร-ธิดาของเหล่าผู้เสียสละ ได้รับโอกาสทางการศึกษาและเติบโตเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ สมดังที่ได้ตั้งปณิธานว่าจะดำเนินงานด้วยใจภักดิ์ สานต่อปณิธานแห่งการให้ไม่สิ้นสุด เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว