วันนี้ (วันที่ 31 มีนาคม 2566) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย แผนเดินหน้าเพิ่มรายได้ขบวนรถไฟท่องเที่ยว KIHA 183 เชิญชวนประชาชนสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยว รถไฟไทย สไตล์ญี่ปุ่น ด้วยแนวคิด “ย้อนรอยประวัติศาสตร์” ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเดือนเมษายน 2566 รฟท. ได้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวกับขบวนรถไฟ KIHA 183 ภายใต้แนวคิด “ย้อนรอยประวัติศาสตร์” โดยมีโปรแกรมท่องเที่ยวไปตามเส้นทางต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม เพื่อสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในรูปแบบรถไฟไทย สไตล์ญี่ปุ่น โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- วันที่ 1 - 2 เมษายน 2566 โปรแกรม แต่งกายย้อนยุค นั่งรถไฟ KIHA 183 เที่ยวงานแก่งคอย ย้อนรอยอดีตสงครามโลกครั้งที่ 2
- วันที่ 8 - 9 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองแปดริ้ว เติมความหวาน ในวันมะม่วงและของดีเมืองแปดริ้ว
- วันที่ 22 - 23 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 แต่งชุดไทย แลหาพี่หมื่น ตามหาออเจ้า ที่กรุงเก่าอโยธยา
- วันที่ 29 - 30 เมษายน 2566 โปรแกรม นั่งรถไฟ KIHA 183 เที่ยวเมืองอาร์ต ราชบุรี ชมเชิดหนังใหญ่ – เพ้นท์โอ่ง (มังกร)
นอกจากนี้ รฟท. ยังมีการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวต่อเนื่องในทุกเดือน เช่น เดือนพฤษภาคม โปรแกรมท่องเที่ยว ในแนวคิด ผจญภัยเหนือสายน้ำ เดือนมิถุนายน โปรแกรมท่องเที่ยวในแนวคิด Save The World รักษ์โลก รัก(ของ)เรา ในเส้นทางจังหวัดต่างๆ หลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับมอบ รถดีเซลราง (DMU) รุ่น KIHA จากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 17 คัน โดยเป็นรถรุ่น KIHA 183 (มีห้องขับ) แบบห้องขับสูงจำนวน 8 คัน และแบบห้องขับต่ำจำนวน 1 คัน ส่วนรุ่น KIHA 182 (ไม่มีห้องขับ) มีจำนวน 8 คัน โดยที่ผ่านมา รฟท.ได้ดัดแปลงและปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีดีไซน์ความเป็นญี่ปุ่น จึงทำให้ถูกใจผู้ที่ใช้บริการเป็นอย่างมาก ซึ่งก่อนหน้านี้ ขบวนรถไฟ KIHA 183 นำร่องในเส้นทางท่องเที่ยวระยะสั้น เช่น ฉะเชิงเทรา ราชบุรี และเพชรบุรี
“รัฐบาลเน้นย้ำถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเชื่อมั่นว่า การบูรณาการความร่วมมือระหว่าง รฟท. กับหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน จะเป็นอีกตัวอย่างที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมทั้ง เพิ่มโอกาสกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นตั้งแต่ฐานรากของเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน” นายอนุชาฯ กล่าว
