พี่น้องสตรีและประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน
เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2566 ที่บรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง ผมในนามของรัฐบาลขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังสตรีไทย และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีทุกท่าน
องค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี เป็นวันสตรีสากล เพื่อให้ประเทศสมาชิกทั่วโลกได้ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญ และการเคารพในศักดิ์ศรี รวมทั้งการพัฒนางานด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างความเสมอภาคทางสังคมให้แก่สตรี
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกช่วงวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรีซึ่งถือเป็นประชากรที่มีจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ รัฐบาลได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของสตรีในการเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ จึงได้ยกระดับการส่งเสริมบทบาทสตรีให้สามารถมีส่วนร่วมในการเป็นพลังทางสังคม พร้อมทั้งการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนในสังคมปรับเปลี่ยนเจตคติต่อบทบาทสตรี บนพื้นฐานของการเคารพศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์
ในการจัดงานวันสตรีสากล ประจำปี 2566 นี้ ประเทศไทยจึงได้กำหนดแนวคิดว่า “พลังสตรีและเด็กหญิง ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่ความเสมอภาคระหว่างเพศอย่างยั่งยืน” เพื่อให้สตรีทุกช่วงวัยได้มีส่วนในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมพลิกโฉมประเทศไทยให้เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ ภายในปี 2570
ในโอกาสนี้ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ อีกทั้งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โปรดอภิบาลประทานพรให้สตรีไทย ตลอดจนผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสตรีทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพกาย สุขภาพใจที่แข็งแรง และสัมฤทธิผลในสิ่งอันพึงปรารถนาโดยทั่วกัน