ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานปี 2565 และนโยบายปี 2566 ว่า ผลจากนโยบายและการดำเนินงานภายใต้บทบาท “ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย” และบทบาทใหม่ของ EXIM BANK ที่ “กล้า พัฒนาเพื่อคนไทย”  มีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินและไม่ใช่การเงินอย่างครบวงจร เพื่อเสริมศักยภาพในการขยายการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ทำให้การดำเนินงานของ EXIM BANK ในปี 2565 เติบโตระดับสองหลัก (Double Digit Growth) ในมิติต่าง ๆ ดังนี้
• ยอดคงค้างสินเชื่อ 168,331 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15,558 ล้านบาท หรือ 10.18% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานในปี 2537 ทั้งนี้ อัตราการเติบโตดังกล่าวสูงกว่าระบบธนาคารถึง 2 เท่า
• วงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่ 94,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 19.21% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็น Double Digit Growth ทั้งในภาพรวม และเพิ่มขึ้นถึง 17.91% ในกลุ่ม SMEs ซึ่งเป็น Double Digit Growth เช่นเดียวกัน
• ยอดคงค้างสินเชื่อที่สนับสนุนความยั่งยืน 47,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 21.83% จากปีก่อน และคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของยอดคงค้างสินเชื่อทั้งหมด เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี
• ปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน 169,338 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 10.34% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และสูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานเช่นเดียวกับด้านสินเชื่อ
• จำนวนลูกค้าทั้งด้านสินเชื่อและรับประกัน 6,102 ราย เพิ่มขึ้นสูงถึง 24.00% จากปีก่อนหน้า เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี อีกทั้งยังถือเป็นผลงานการเติบโตที่มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้กว่า 2 เท่า ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2565 EXIM BANK ได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการกว่า 21,000 ราย วงเงินรวมกว่า 90,000 ล้านบาท
• NPL Ratio เพียง 2.90% เป็นอัตราที่ต่ำกว่าเป้าหมายและต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง 2 ปี และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 12,821 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) 262.99%

จากความมุ่งมั่นในการดำเนินงานขยายธุรกิจ ส่งผลให้ EXIM BANK มีกำไรจากการดำเนินงาน 2,737 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.51% ถือเป็นการเติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และมีกำไรสุทธิ 1,504 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับที่มากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้จะมีการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการตรึงดอกเบี้ย Prime Rate มานานกว่า 6 เดือน ต่อเนื่องถึงสิ้นเดือนมกราคม 2566 ก็ตาม

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า สำหรับปี 2566 เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอลงชัดเจน ธนาคารโลกและ The Economist Intelligence Unit (EIU) หน่วยงานวิเคราะห์เศรษฐกิจชั้นนำของโลก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 2% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี เป็นผลจากปัญหาเงินเฟ้อที่คาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูงและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกไทย ซึ่งคาดว่าจะเติบโตได้สูงสุดเพียง 2% หรือชะลอกว่า 2 เท่าจากปีก่อนหน้า อันเนื่องจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญชะลอตัว โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป ราคาสินค้าส่งออกเริ่มลดลง และเงินบาทผันผวนสูง ท่ามกลางปัจจัยท้าทายและความไม่แน่นอนในหลากหลายมิติ โอกาสจึงเป็นของผู้ที่กล้าเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจไปยังตลาดที่มีศักยภาพและเหมาะกับสินค้าและบริการของธุรกิจ โดย EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย (Thailand Development Bank) พร้อมทำหน้าที่ Miracle Maker พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก ด้วยการส่งเสริมการบุกตลาดการค้าการลงทุนที่มีศักยภาพและยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้ได้มาตรฐานสากล โดยชูนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับมีความกล้าและความพร้อมที่จะเข้าสู่ Supply Chain การส่งออก การพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจใหม่ ๆ ที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่

ในการขับเคลื่อน BCG Economy EXIM BANK ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญอันดับแรกกับการดูแลเอาใจใส่พนักงาน จัดให้มีสวัสดิการยืดหยุ่นรองรับความต้องการของแต่ละบุคคล เพิ่มพูนความรู้โดยเฉพาะ Future Skills อันดับต่อมาคือ การดูแลบ้าน EXIM BANK ให้ดำเนินธุรกิจที่เสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจ BCG อย่างต่อเนื่องและครบวงจร คู่ขนานกับการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมในมิติของการดูแลคนตัวเล็กในชุมชน โดยเติมความรู้ เติมโอกาส และเติมเงินทุน ให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีความรู้ทางการเงินสำหรับเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจที่เชื่อมโยงกับ Supply Chain การส่งออกไปเวทีโลก เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกัน

“EXIM BANK กล้าคิดและกล้าทำเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้แข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ สามารถบุกตลาดใหม่ ๆ และนำเสนอสินค้าและบริการของไทยที่ตอบโจทย์เทรนด์และความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้ สร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็มีแพลนบีรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนของโลก Next Normal โดย EXIM BANK จะสานพลังกับพันธมิตรทุกภาคส่วนเดินหน้าสร้างระบบนิเวศสีเขียว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ดร.รักษ์กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายส่งเสริมภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร
โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 4110-4

EXIM Thailand Makes a Miracle on 2022 Operational Performance with Leapfrog Growth and Over 1,500 Million Baht Profit for 2 Straight Years while Focusing on BCG Policy to Build Organizational-to-Global Green Ecosystem in 2023

Dr. Rak Vorrakitpokatorn, President of Export-Import Bank of Thailand (EXIM Thailand), announced EXIM Thailand’s operating results in 2022 and policies for 2023. With policy and business operation under the role of “Thailand Development Bank” and with the redefined stance to take “One Step Ahead for All Development,” EXIM Thailand has proactively supported Thai entrepreneurs with full-fledged financial and non-financial products and services to enhance their potential for expansion of trade and investment both at home and overseas in a secured and sustainable manner. As a result, double-digit growth was recorded in the Bank’s 2022 business operation in various dimensions as follows:  
• Total outstanding loans of 168,331 million baht, a year-on-year growth of 15,558 million baht or 10.18%, which was a double-digit growth for 2 consecutive years and the highest since the Bank’s establishment in 1994, as well as twofold higher than the industry average.  
• New loan approvals of 94,400 million baht, a double-digit year-on-year growth of 19.21% in overall and 17.91% for SMEs.
• Outstanding loans to support sustainability amounting to 47,628 million baht, a 21.83% year-on-year growth, representing almost 30% of total outstanding loans and a double-digit growth for 2 straight years.
• Accumulated insurance business turnover amounting to 169,338 million baht, a 10.34% year-on-year growth, which was a double-digit growth for 2 straight years and the highest since the Bank’s establishment, the same as the lending side.
• Number of loan and insurance customers recorded at 6,102, a 24.00% increase from the previous year, which was a double-digit increase for 2 straight years and more than twice higher than the target set forth. As of the end of 2022, EXIM Thailand provided financial and non-financial assistances to over 21,000 entrepreneurs, involving over 90,000 million baht.
• NPL ratio of only 2.90%, which was below the target and lower than large commercial banks’ average for 2 straight years, and allowance for expected credit loss amounting to 12,821 million baht, which was a strong level and constituted an NPL coverage ratio of 262.99%.
With high determination to further business expansion, EXIM Thailand posted an operating profit of 2,737 million baht, a year-on-year growth of 14.51% which was a double-digit growth for 2 years in a row, and a net profit of 1,504 million baht, a level above 1,500 million baht for 2 straight years despite the Bank’s scheme to relieve customers’ interest burden by keeping its prime rate unchanged for more than 6 consecutive months until the end of January 2023.    

EXIM Thailand President said that global economy in 2023 is clearly on a slowing trend. According to the World Bank and the Economist Intelligence Unit (EIU), global economy in 2023 is predicted to expand below 2%, the lowest in 30 years, amid the prevailing high inflation and upward trend of interest rates. This could affect Thai export which is expected to grow up to only 2% or a decelerating rate of more than twofold of that in the foregoing year in the face of economic slowdown of trade counterpart countries, particularly the US and Europe, declining prices of export goods and considerable fluctuations of Thai baht. Under such uncertain and challenging circumstances in multiple dimensions, opportunities are still there for entrepreneurs who dare to start up or expand their businesses to markets with good prospects and for which their products and services are suitable. As Thailand Development Bank, EXIM Thailand is fully ready to perform as the Miracle Maker to develop Thai businesses so that they would grow sustainably on the global stage. The Bank aims to promote penetration of trade and investment in markets with high potential and uplift Thai products and services to meet international standards by focusing on the policy to drive Bio-Circular-Green (BCG) economy so that Thai entrepreneurs at all levels have the courage and are ready to enter the export supply chains, and develop new businesses and industries that would help pave the way toward low carbon society and respond to the needs of consumers of the new era.    

EXIM Thailand has consistently strived to propel BCG economy with first priority given to taking good care of the employees by providing them with flexible welfare packages to serve individual needs and boosting knowledge and skills, future skills in particular. Next priority is to ensure the home of  EXIM Thailand runs business with economic, social and environmental awareness and supports the goal of carbon neutral organization by 2030. As well as in support for BCG businesses on a consistent and fully integrated basis, EXIM Thailand operates business with social responsibility in the dimension of caring for “smaller people” in communities by enhancing their knowledge, bringing opportunities and filling up capital gap, so that communities are strong with financial literacy available for business start-up or expansion in linkage with export supply chains on the path toward the mutual goal of sustainable development.        

“EXIM Thailand dares to think and do for the development of Thai entrepreneurs to enable them to compete sustainably on the global stage both proactively and reactively, penetrate new markets with offering of Thai goods and services in response to the needs and megatrends of new generation consumers, and build the better society and environment. We are concurrently well positioned with preparation of contingency plans to cope with global uncertainties of the Next Normal era alongside synergizing with alliances in all sectors to build green ecosystem and drive the BCG economy and sustainable development,” added Dr. Rak.      

For further information, please contact Corporate Branding and Communication Department
Tel. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ext. 4110-4