เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 17 - 19 พฤศจิกายน 2565 ตามคำกราบบังคมทูลเชิญของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองประเทศและผลประโยชน์ระหว่างกัน นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลเชิญมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC) ในฐานะแขกพิเศษของประธาน โดยคำนึงว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในเวทีระหว่างประเทศ และประเทศไทยเชื่อมั่นว่า ซาอุดีอาระเบียจะมีบทบาทสร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งจักรี
มหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ซึ่งการเข้าเฝ้าฯ ในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ โดยเป็น
การพบกันอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างพระบรมวงศานุวงศ์ของทั้งสองประเทศภายหลัง
การปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์ เมื่อเดือนมกราคม 2565
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับเสด็จมกุฎราชกุมาร
และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และเข้าร่วมการหารือเต็มคณะที่ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีและพหุภาคีในทุก ๆ มิติ
ผู้นำทั้งสองฝ่ายยินดีกับการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจทวิภาคี ซึ่งสะท้อนถึงความความร่วมมือและความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและระหว่างประชาชนกับประชาชน ดังนี้
- บันทึกความเข้าใจการจัดตั้งสภาความร่วมมือซาอุดี – ไทย
- บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนโดยตรง ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
- ข้อตกลงความร่วมมือด้านพลังงานระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย
- บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงท่องเที่ยวแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
- บันทึกความเข้าใจระหว่างองค์กรกำกับดูแลและต่อต้านการทุจริต ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติราชอาณาจักรไทยว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ในด้านการเมือง กลาโหมและความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับโอกาสที่จะส่งเสริมความร่วมมือทั้งในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติในทุกรูปแบบ อาทิ การต่อต้านการก่อการร้ายและการต่อต้านลัทธิหัวรุนแรงและลัทธิสุดโต่ง การส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และความร่วมมือด้านการข่าว นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายแสดงความพร้อมที่จะส่งเสริมความร่วมมือด้านกงสุลเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมบทบาทและความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของทั้งสองประเทศในการ
สนับสนุนความพยายามของประชาคมระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโลก โดยทั้งสองฝ่าย
ย้ำความสำคัญของการเข้าถึงตลาดของกันและกัน รวมถึงการส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างภาคเอกชน การเพิ่มโอกาสด้านการลงทุน การขยายตลาดการค้า และการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างคณะนักธุรกิจของทั้งสองประเทศ นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนของทั้งสองประเทศในภาคธุรกิจที่มีศักยภาพ อาทิ อุปกรณ์ก่อสร้าง ปิโตรเคมี ผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องอุปโภคบริโภค เศรษฐกิจดิจิตอล การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม เหมืองแร่ ยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการผลิต เกษตรกรรม สินค้าราคาสูง และธุรกิจบริการ รวมทั้ง การส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับแนวทางที่จะส่งเสริมให้ซาอุดีอาระเบียเข้ามาลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และการส่งเสริมให้ไทยเข้าไปลงทุนในโครงการ NEOM ในซาอุดีอาระเบีย บนพื้นฐานของความสอดคล้องกันระหว่างโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ของไทยกับวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย ค.ศ. 2030 ทั้งนี้ ไทยพร้อมที่จะสนับสนุนข้อริเริ่มซาอุดีอาระเบียสีเขียว และตะวันออกกลางสีเขียวของซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือกับกองทุนเพื่อการลงทุนของซาอุดีอาระเบียต่อไปในอนาคต
ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความร่วมมือในด้านพลังงาน อาทิ การซื้อขายน้ำมัน อนุพันธ์
ของปิโตรเลียม ปิโตรเคมี เทคโนโลยีพลังงานสะอาดจากแหล่งไฮโดรคาร์บอน เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานหมุนเวียน นอกจากนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมความร่วมมือและดำเนินโครงการร่วมเพื่อพัฒนานวัตกรรมการนำไฮโดรคาร์บอนไปใช้ในลักษณะต่าง ๆ และศึกษาความเป็นไปได้ของความร่วมมือด้านพลังงานในมิติอื่น ๆ
ในด้านความร่วมมือด้านสังคมและการศึกษา ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญในการเสริมสร้างและเพิ่มพูน
การสื่อสารระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ ฝ่ายซาอุดีอาระเบียชื่นชมและแสดงความขอบคุณที่รัฐบาลไทยยกเว้นการตรวจลงตราชาวซาอุดีอาระเบียที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยเพื่อการท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 30 วัน
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายแสดงความมุ่งมั่นที่จะอำนวยความสะดวกสำหรับการแลกเปลี่ยนการเยือนในทุกระดับ
ฝ่ายไทยขอบคุณที่ฝ่ายซาอุดีอาระเบียจะพิจารณาอำนวยความสะดวกในเรื่องการตรวจลงตราสำหรับ
นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อส่งเสริมการค้าขาย การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ
ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกันถึงความสำคัญของการยกระดับความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ การวิจัย และ
การศึกษาระหว่างสองราชอาณาจักร ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในการส่งเสริมความร่วมมือโดยตรงระหว่าง
มหาวิทยาลัย สถาบันวิทยาศาสตร์และสถาบันการศึกษา นอกจากนั้นยังย้ำความสำคัญของการศึกษา
ในช่วงเวลาวิกฤต และการส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและทั่วถึง
ทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความริเริ่มด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เพื่อรับมือกับโรคระบาดในปัจจุบัน และเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับโรคอุบัติใหม่ นอกจากนั้นทั้งสองฝ่ายยังตกลงที่จะร่วมมือและดำเนินงานร่วมกันหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะหารือเกี่ยวกับโอกาสในการร่วมมือด้านวิทยุ โทรทัศน์ สำนักข่าว และสื่อสารมวลชน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนของทั้งสองฝ่าย เพื่อการพัฒนาด้านการสื่อ
ทั้งสองฝ่ายหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และการส่งเสริม
ความร่วมมือในด้านกีฬาประเภทต่าง ๆ
ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญของความพยายามร่วมกันในการต่อสู้กับลัทธิสุดโต่ง และส่งเสริมความเข้าใจ ขันติธรรม สันติภาพ และความมั่นคง
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยแสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลของ
ผู้อารักขามัสยิดศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง รวมถึงมกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทย และชื่นชมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างทั้งสองฝ่าย
ในด้านกิจการระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและมุมมองเกี่ยวกับพัฒนาการในภูมิภาคของตน อาทิ สถานการณ์ในเยเมน อิหร่าน และอัฟกานิสถาน ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญของการเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศและความร่วมมือพหุภาคี ทั้งสองฝ่ายย้ำความตั้งใจที่จะสนับสนุนซึ่งกันและกันในด้านที่มีความสนใจร่วมกัน นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายย้ำความมุ่งมั่นในการรักษาและเพิ่มพูนความร่วมมือในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายย้ำความสำคัญของทุกประเทศในการปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติ หลักความชอบธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศ หลักการเพื่อนบ้านที่ดี การเคารพเอกภาพและอำนาจอธิปไตยของรัฐ ภายใน และดำเนินการแก้ไขปัญหาความแตกต่างด้วยสันติวิธี ฝ่ายไทยชื่นชมความพยายามด้านมนุษยธรรมอย่างแข็งขันของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคตะวันออกกลาง และแสดงความขอบคุณราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียสำหรับการสนับสนุนประเทศไทยในกรอบองค์การความร่วมมืออิสลาม
เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่ง
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ทรงขอบใจประเทศไทยที่สนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการสมัครรับเป็น
เจ้าภาพจัดงาน World Expo 2030 ณ กรุงริยาด และพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแสดงความขอบคุณที่ซาอุดีอาระเบียจะพิจารณาสนับสนุนประเทศไทยในการรับสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 Phuket, Thailand
ในช่วงท้ายของการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทย เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ
อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ทรงขอบใจ พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สำหรับการรับเสด็จและถวาย
การต้อนรับพระองค์และคณะผู้ติดตามอย่างอบอุ่นและอย่างดียิ่ง นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย
ได้ถวายพระพรชัยมงคลแด่มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียให้ทรงมี
พระพลานามัยที่สมบูรณ์ และขออวยพรให้ให้ประชาชนชาวซาอุดีอาระเบียมีความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง
*********