วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2565
รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ มอบนโยบายและบรรยายผลงานสำคัญ ทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล แก่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
วันนี้ 10 ตุลาคม 2565 เวลา 13.30 น. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวมอบนโยบายและบรรยายผลงานสำคัญทางด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล แก่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ในการประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 9/2565 ที่มีนายนายดิสทัต คำประกอบ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล และผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ สรุปสาระสำคัญดังนี้
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การประชุมครั้งนื้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้มีการมอบนโยบายให้แก่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้รับทราบถึงภารกิจที่รัฐบาลได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา และนำนโยบายเหล่านี้ไปเผยแพร่และขยายผลต่อไปซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยสิ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ที่ได้ดำเนินการต่อเนื่องกันมาล้วนเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่ประเทศไทยได้พบเจอมา แม้กระทั่งปัจจุบันจะดีขึ้นแต่วิกฤติยังมีอยู่ โดยเรื่องวิกฤติโรคระบาดเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประชาชนทุกคนได้ผ่านช่วงนั้นมาแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา 2 ปีกว่า มีผู้เสียชีวิต มีการเว้นระยะห่าง มีการปิดบ้านปิดเมือง มีการระงับการแพร่กระจายเชื้อโรค ซึ่งรัฐบาล ทุกหน่วยงาน และทุกกระทรวงได้ร่วมมือกันดำเนินการ ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังคงรักษาเสถียรภาพความมั่นคงทางการเงินการคลังให้แข็งแรงอยู่ในอัตราระดับความน่าเชื่อถือที่ไม่เปลี่ยนแปลง
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า สถานการณ์ของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ได้ผ่านพ้นมาจนถึงปัจจุบัน เป็นความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน แต่ยังคงเจอวิกฤติเศรษฐกิจโลกทั้งสถานการณ์การเมืองโลก การแบ่งขั้วจากประเทศต่าง ๆ ไปสู่สงครามระหว่างประเทศ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อในยุโรป ซึ่งรวมถึงห่วงโซ่การผลิตสินค้าสู่ตลาดโลก สร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากที่ต้องเผชิญกับโรคโควิด-19 มายาวนานกว่าสองปี โดยสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับประโยชน์หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 อาจทำให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนฯ ของไทยได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการต่างชาติมาที่ไทยในระยะต่อไป เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงฐานการผลิตเพียงแห่งเดียว ซึ่งอาจนำมาสู่การขาดแคลนชิ้นส่วนฯ ในภาวะวิกฤติ ส่งผลให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนฯ ของไทยมีโอกาสยกระดับคุณภาพและเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงการขยายตลาดส่งออกในอนาคต และการขยายความร่วมมือด้านการลงทุนและการค้าสินค้าเกษตร และอาหารมาตรฐานฮาลาลกับซาอุดีอาระเบีย และด้านการค้าและการลงทุนของไทยในแอฟริกาตะวันออก เพื่อเพิ่มพูนปริมาณการค้าระหว่างกันให้มากขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งล้วนเป็นศักยภาพในอุตสาหกรรมใหม่ที่จะนำเศรษฐกิจของประเทศไทยเดินไปข้างหน้า
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ตั้งเป้าหมายว่าประเทศไทยจะมุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์โดยเร็วที่สุด ดังนั้น จึงทำให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ทั้งพลังงานชีวภาพ พลังงานชีวมวลและพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งการนำพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเป็นไปตามแผนพลังงานแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้นกว่าที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐบาลได้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง โครงข่ายเส้นทางหลักและส่วนต่อขยายที่เชื่อมโยงบริเวณด่านชายแดนให้มีมาตรฐาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงให้รองรับการขยายตัวของกิจกรรมในพื้นที่ รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบขนส่งมวลชนในเมืองและระบบการขนส่งทางรางในหัวเมืองใหญ่ อีกทั้งการพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน มีฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับการผลิตขนาดใหญ่ และมีความเชื่อมโยงด้านการคมนาคม สามารถที่จะถูกพัฒนาสู่เมืองการท่องเที่ยวระดับโลกคู่ขนานกันไป เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้ประชาชนในพื้นที่ให้สูงขึ้น โดยมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและโลจิสติกส์เพื่อเชื่อมโยงระบบขนส่งและสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่ สนับสนุนการค้า การบริการ การท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น อำนวยความสะดวกในการเดินทางได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย โดยรัฐบาลกำลังจะพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ : NEC ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : NeEC ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง-ตะวันตก : CWEC ระเบียงเศรษฐกิจ ภาคตะวันออก : EEC และระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ : SEC เป็นแผนระยะยาวที่ต้องอาศัยความมือจากทุกฝ่ายร่วมกันบูรณาการการทำงาน ซึ่งการพัฒนาเมืองในพื้นที่ EEC คือการมุ่งสู่การเป็นชุมชนเมืองเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนครอบคลุมทุกมิติการพัฒนาชุมชนเมืองที่น่าอยู่อย่างยั่งยืน.
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
- การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35
ข่าวกระทรวง
วีดิทัศน์รายการ/คลังภาพ
วาระงาน