วันพฤหัสบดีที่ 18 สิงหาคม 2565
สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ยืนยันสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ต้องเป็นผู้รับภาระการชำระหนี้เอง
ตามที่เว็บไซต์ไทยรัฐ เว็บไซต์มติชน เว็บไซต์สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น และเว็บไซต์สยามรัฐ ได้เผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับร่างพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. .... (ร่าง พ.ร.ก.ฯ) วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ว่าคณะรัฐมนตรีออกกฎหมายโยกหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นหนี้สาธารณะและให้ประชาชนเป็นผู้แบกรับนั้น
วันที่ 18 สิงหาคม 2565 นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล รอง ผอ.สบน. ในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ชี้แจงในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่กู้เงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาระค่าครองชีพของประชาชน มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐ ประเภทหน่วยงานในกำกับดูแลของรัฐ ตามบทนิยามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ. การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทำให้การกู้เงินของ สกนช. จะนับเป็นหนี้สาธารณะ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบัน สกนช. ยังไม่ได้ดำเนินการกู้เงินแต่อย่างใด นอกจากนี้ แม้ว่าร่าง พ.ร.ก. ฯ ดังกล่าวจะกำหนดให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้แก่ สกนช. แต่การชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าว สกนช. จะต้องเป็นผู้รับภาระการชำระหนี้ โดยใช้รายได้ของตนเอง และกระทรวงการคลังไม่สามารถตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้กับ สกนช. ได้ ดังนั้น จึงไม่เป็นภาระต่องบประมาณและไม่ได้เป็นการผลักภาระให้กับประชาชนแต่อย่างใด
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่าการกู้ยืมเงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นเรื่องที่ได้เคยดำเนินการมาแล้วในอดีต ซึ่งการกู้เงินของกองทุนน้ำมันฯ ถือว่าเป็นหนี้สาธารณะและถูกค้ำประกันโดยกระทรวงการคลังมาโดยตลอด ส่วนจำนวนเงินที่กู้จะมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ ในแต่ละช่วงเวลา ส่วนในเรื่องการชำระหนี้ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็มีการเตรียมแผนงานไว้แล้ว และจะมีการปรับเปลี่ยนตามสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันฯ จึงขอให้มั่นใจได้ว่าการกู้เงินของกองทุนน้ำมันฯ ในครั้งนี้ ซึ่งมีการออก พรก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. …. และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม เพียงแต่มีวิธีการเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวการณ์และพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ซึ่งได้มีการพิจารณาอย่างรอบด้านเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
- การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35
ข่าวกระทรวง
วีดิทัศน์รายการ/คลังภาพ
วาระงาน