วันพุธที่ 22 มิถุนายน 2565
.....
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เผยผลสำรวจของเอซีไอ เวิลด์ไวด์ ภายใต้ความร่วมมือกับโกลบอลดาต้า ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลระดับโลก และศูนย์วิจัยทางเศรษฐกิจและธุรกิจ พบว่าในปี 2564 ประเทศไทยมียอดการทำธุรกรรมการชำระเงินแบบเรียลไทม์ 9.7 พันล้านครั้ง ครองอันดับ 3 ของโลก รองจากอินเดีย (48.6 พันล้านครั้ง) และจีน (18.5 พันล้านครั้ง) ซึ่งการชำระเงินแบบเรียลไทม์นี้ช่วยเพิ่มผลผลิตทางเศรษฐกิจคิดเป็น 2.08% ของ GDP ซึ่งอยู่อันดับที่ 2 จาก 30 ประเทศ
.
การชำระเงินแบบเรียลไทม์ในไทยเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมากและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินของประเทศเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานโลก ซึ่งมาจากการขับเคลื่อนนโยบายการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment) นับตั้งแต่ปี 2558
.
ผ่านโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ /โครงการพร้อมเพย์ และ QR Payment /G-Wallet ผ่านแอป“เป๋าตัง” ในโครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ชิมช้อปใช้ การขายสลาก เป็นต้น ขณะที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นปัจจัยสำคัญของการทำธุรกรรมแบบเรียลไทม์ที่เพิ่มขึ้นด้วย
.
รัฐบาลมุ่งมั่นขับเคลื่อนนโยบาย National e-Payment อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและภาคธุรกิจในการทำธุรกรรมทางการเงินและกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วน ที่ร่วมมือกันขับเคลื่อน และภาครัฐจะยังคงเดินหน้าขยายงานบริการด้วยระบบ e-Payment ให้ครอบคลุมภารกิจต่าง ๆ มากขึ้น
#ไทยคู่ฟ้า #ร่วมต้านโควิด19
-------------------
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
- การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35
ข่าวกระทรวง
วีดิทัศน์รายการ/คลังภาพ
วาระงาน