นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มอบให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมติดตามข้อมูลปริมาณและทิศทางน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบเส้นทางการสัญจรที่จะได้รับผลกระทบ รวมทั้งวางแผนการดำเนินงานและการบริหารจัดการเส้นทางเลี่ยง และประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนทราบล่วงหน้า เพื่อผู้ใช้เส้นทางสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยนั้น ทั้งนี้จึงได้สั่งการให้โดยหน่วยงานในสังกัดได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัดและให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรณีที่น้ำท่วมสูง ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนพร้อมเร่งระบายน้ำ กรณีถนนหรือสะพานขาด ชำรุด จะเร่งติดตั้งสะพานเบลีย์ เชื่อมทาง สำหรับกรณีดินไหล่เขาข้างทางสไลด์ได้นำเครื่องจักรเขาเกลี่ยดินออกจากเส้นทาง พร้อมวางแท่งแบริเออร์ กระสอบทราย และกำแพงดินเพื่อชะลอน้ำ และจัดทำแผนที่ทางเลี่ยงเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้กรมทางหลวงยังได้ช่วยขนย้ายประชาชนและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย แจกจ่ายอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค และช่วยล้าง ทำความสะอาดเก็บกวาดบ้านเรือนเพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่น้ำลด
สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2564 เวลา 13.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 10 จังหวัด 29 สายทาง 52 แห่ง โดยการจราจรผ่านไม่ได้ 22 แห่ง ดังนี้
1. จังหวัดขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล.2 ท่าพระ - ขอนแก่น ช่วง กม. ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 260 เซนติเมตร
- ทล.12 ขอนแก่น - พรหมนิมิตร ช่วง กม. ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร
- ทล.2065 พล - ลำชี ช่วง กม. ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทาง
- ทล.2065 พล - ลำชี ช่วง กม. ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทาง
- ทล.2131 บ้านสะอาด - เหล่านางงาม ช่วง กม. ที่ 6+800 - 8+500 ระดับน้ำสูง 80 - 90 เซนติเมตร
2. จังหวัดนนทบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า - ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 20 - 25 เซนติเมตร ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ ที่ กม. 18+500 แทน
- ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า - ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม. ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 20 - 25 เซนติเมตร ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ ที่ กม. 16+600 แทน
- ทล.307 แยกสวนสมเด็จ - สะพานนนทบุรี ช่วง กม. ที่ 0+942 (จุดกลับรถใต้สะพานนนทบุรี) ระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร
3. จังหวัดสระบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล.3034 หน้าพระลาน - บ้านครัว ช่วง กม. ที่ 13+500 - 15+800 ระดับน้ำสูง 35 เซนติเมตร
4. จังหวัดอ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล.32 นครหลวง - อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 เซนติเมตร
- ทล.32 นครหลวง - อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 33+200 ระดับน้ำสูง 80 เซนติเมตร
- ทล.32 นครหลวง - อ่างทอง ช่วง กม. ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 55 เซนติเมตร
- ทล.32 อ่างทอง - ไชโย ช่วง กม. ที่ 57+500 (จุดกลับรถบางศาลา) ระดับน้ำสูง 110 เซนติเมตร
- ทล.33 นาคู - ป่าโมก ช่วง กม. ที่ 36+000 - 36+400 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 เซนติเมตร
5. จังหวัดลพบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล.3024 บ้านหมี่ - เขาช่องลม ช่วง กม. ที่ 5+600 - 7+300 ระดับน้ำสูง 170 เซนติเมตร
6. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล.347 บางกระสั้น - บางปะหัน ช่วง กม. ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 50 เซนติเมตร
- ทล.3263 อยุธยา - ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 เซนติเมตร
- ทล.3263 อยุธยา - ไผ่กองดิน ช่วง กม. ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 เซนติเมตร ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน
7. จังหวัดสุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล.33 สุพรรณบุรี - นาคู ช่วง กม. ที่ 9+886 สะพานคลองทับน้ำ ระดับน้ำสูง 70 เซนติเมตร
- ทล.340 สาลี - สุพรรณบุรี ช่วง กม. ที่ 59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม ระดับน้ำสูง 100 เซนติเมตร
8. จังหวัดนครสวรรค์ (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล.1 บ้านหว้า - วังไผ่ ช่วง กม. ที่ 339+600 (จุดกลับรถใต้สะพานเดชาติวงศ์) ระดับน้ำสูง 65 เซนติเมตร
9. จังหวัดระนอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 4006 ราชกรูด - วังตะกอ ช่วง กม. ที่ 4+175 ดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง โทร.1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง
@prdoh1