วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม 2564
สธ. ยืนยันการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ลอตแรกจะฉีดให้กลุ่มบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข/ บุคลากรด่านหน้า ไม่มีการจัดสรรให้กลุ่มวีไอพีอย่างแน่นอน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2564 นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์ รวม 21.54 ล้านโดส โดยล็อตแรก จำนวน 1.54 ล้านโดสเป็นวัคซีนที่ได้รับบริจาคจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา จะเข้ามาภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และวัคซีนที่สั่งซื้อจำนวน 20 ล้านโดส จะได้รับในไตรมาส 4 ปี 2564
กระทรวงสาธารณสุข โดยคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ได้ตั้งคณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนโควิด 19 กรณีวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ร่วมกันพิจารณาจัดสรรและกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ให้กับกลุ่มเป้าหมายตามมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) โดยล็อตแรก จำนวน 1.54 ล้านโดสจะเริ่มฉีดต้นเดือนสิงหาคม 2564 ในกลุ่มบุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข/ บุคลากรด่านหน้า ไม่น้อยกว่า 5 แสนโดส ที่เหลือจัดสรรไปยังกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และพื้นที่เสี่ยงอื่น ๆ เพื่อควบคุมการระบาดในพื้นที่ สำหรับวัคซีนไฟเซอร์อีก 20 ล้านโดสจะเข้ามาในประเทศไทยและเริ่มฉีดได้ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2564 การจัดสรรจะอยู่ภายใต้การพิจารณาของคณะทำงานฯ วัคซีนไฟเซอร์ ดังนั้นจึงไม่มีการนำไปฉีดให้กับกลุ่มคน VIP และเครือญาติแต่อย่างใด
กรณีข่าวการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข/ด่านหน้าเหลือ 2 แสนโดสนั้น ขอย้ำไม่เป็นความจริง การจัดสรรวัคซีน กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญของบุคลากรด้านการแพทย์และด่านหน้า เพื่อธำรงรักษาระบบสาธารณสุขของประเทศ รับมือกับสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 บุคลากรด่านหน้าทุกคนต้องได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ซึ่งขณะนี้บุคลากรบางส่วนที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และฉีดเข็ม 3 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า การฉีดเป็นไปตามความสมัครใจ ไม่มีการบังคับให้ฉีดเข็มกระตุ้นเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ขณะนี้ได้ให้ทุกโรงพยาบาลสำรวจข้อมูลบุคลากรด่านหน้าและจะฉีดวัคซีนให้ตามที่ได้แจ้งไว้
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
- การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35
ข่าวกระทรวง
วีดิทัศน์รายการ/คลังภาพ
วาระงาน