วันนี้ (11 ก.ค.64) เวลา 12.30 น. ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หัวหน้า ศปม.) ชี้แจงรัฐบาลยกระดับมาตรการ โดย ศปม. บังคับใช้มาตรการต่าง ๆ เข้มข้นตามระดับพื้นที่ควบคุม ดังนี้
พลเอก เฉลิมพล กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้น รัฐบาลจึงได้ออกข้อกำหนดฉบับที่ 27 และคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ที่ 9/2564 ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป เป็นการยกระดับมาตรการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะลดหรือจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางของบุคคล ลดการรวมกลุ่มของบุคคล เพื่อลดการติดต่อสัมผัสระหว่างกัน อันเป็นสาเหตุของความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และแพร่เชื้อโรค ควบคู่ไปกับการเร่งรัดมาตรการป้องกันโรค การควบคุมโรค การรักษาพยาบาล และการเยียวยา ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ซึ่งประกอบด้วย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการร่วมกัน กับกรุงเทพมหานคร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบังคับใช้มาตรการต่าง ๆ ซึ่งจะมีความเข้มข้นตามระดับพื้นที่ควบคุม โดยในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะมีการดำเนินการดังนี้
ตั้งจุดตรวจเพื่อบังคับใช้มาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน ระหว่างเวลา 21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่เป็นผู้ที่ได้รับการยกเว้นตามข้อกำหนด หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน เจ้าหน้าที่ เป็นรายกรณี นอกเหนือจากห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหะสถาน จะเป็นการตรวจการปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน และตรวจคัดกรองการเดินทางเข้า-ออกจังหวัดอย่างเข้มงวด ในพื้นที่กรุงเทพมหานครตั้งจุดตรวจจำนวน 88 จุด จังหวัดปริมณฑล 20 จุด และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 39 จุด จึงขอให้พี่น้องประชาชน ชะลอหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางข้ามจังหวัดโดยไม่จำเป็น นอกจากนั้นยังจัดชุดตรวจ สายตรวจร่วม และชุดลาดตระเวนร่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อตรวจและกวดขันให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด รวมทั้งบังคับใช้มาตรการห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 5 คน และรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค สำหรับจังหวัดอื่น ๆ นั้น ได้จัดตั้งจุดตรวจเพื่อคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้า-ออกจังหวัด โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑล จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เพื่อติดตามและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางการกำหนดอย่างเคร่งครัด
พลเอก เฉลิมพล กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงได้เริ่มจัดตั้งจุดตรวจ ชุดตรวจ และสายตรวจร่วมและชุดลาดตระเวนร่วมตั้งแต่บัดนี้ โดยในขั้นต้นจะเป็นการตรวจการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค การชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะบังคับใช้มาตรการตามกำหนดในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ซึ่งเจ้าหน้าที่จะยึดหลักความเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรการ และจะดำเนินการต่อผู้ละเมิดมาตรการอย่างเด็ดขาด สำหรับพี่น้องประชาชนโดยทั่วไป ซึ่งได้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอาจได้รับผลกระทบบ้าง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยให้มีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตให้น้อยที่สุด
สำหรับในบริเวณพื้นที่ชายแดน ได้มีการเข้มงวดกวดขัน การป้องกันและปราบปรามการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การลักลอบขนส่งยาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยใช้กองกำลังป้องกันชายแดน ในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดการลาดตระเวน โดยเฉพาะช่องทางท่าข้ามธรรมชาติ เชื่อมด้วยการวางเครื่องกีดขวาง การใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เช่น กล้องวงจรปิด กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน อากาศยานไร้คนขับและโดรน รวมทั้งได้รับความร่วมมือจากชุมชนเข้มแข็งบริเวณชายแดน ในการให้เบาะแส แจ้งข่าวสารต่อเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นยังได้ร่วมกับฝ่ายปกครองทำการตรวจและตรวจสอบหมู่บ้านตามแนวชายแดน มีการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งจะเป็นที่พักรอของผู้ที่ลักลอบเข้าเมือง ร่วมกับส่วนราชการ เครือข่ายภาคประชาชน ในการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ทั้งแบบประจำที่และไม่ประจำที่ ลาดตระเวนตามเส้นทางตลอดแนวชายแดน และเส้นทางที่ใช้ในการลักลอบเข้าสู่พื้นที่ตอนใน
“ในห้วงที่ผ่านมาแม้ว่าจะจับกุมได้จำนวนมาก ทั้งแรงงานผิดกฎหมายและผู้นำพา แต่ก็ยังมีผู้ที่พยายามที่จะลักลอบเข้ามา ซึ่งจะได้เพิ่มความเข้มข้นในการปราบปราม พยายามยุติกระบวนการให้หมดสิ้นไป จะไม่ยอมให้ผู้ใดมาหาประโยชน์ในทางผิดกฎหมาย บนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และความเสียหายของประเทศอย่างมหาศาล ช่วงที่ผ่านมาได้รับข้อมูลเบาะแสจากประชาชน นำไปสู่การจับกุมได้หลายครั้ง ผมขอขอบคุณและชื่นชมความรับผิดชอบต่อส่วนรวม” พลเอก เฉลิมพล กล่าว
พร้อมกันนี้ พลเอก เฉลิมพล ได้เชิญชวนและขอความร่วมมือในการแจ้งข้อมูลที่สายด่วน 1111 ของรัฐบาล รวมทั้ง 191 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ 1138 ของกองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยการดำเนินการของเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ ร่วมใจจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้
-----------------------------
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก