สารนายกรัฐมนตรี
เนื่องในวันน้ำโลกประจำปี 2564
วันที่ 22 มีนาคม 2564
------------------
พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รักทุกท่าน
ตามที่องค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ ๒๒ มีนาคมของทุกปีเป็นวันน้ำโลก เพื่อให้ทุกประเทศตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และกระตุ้นให้ประชาคมโลกร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างบูรณาการ ตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โดยในปี ๒๕๖๔ นี้ ได้ให้ความสำคัญในประเด็น “การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า”
“น้ำ” เป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อทุกชีวิตบนโลก ในอดีตน้ำมีความสมบูรณ์ทั้งปริมาณและคุณภาพ แต่ปัจจุบันทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยกำลังเผชิญกับภาวะวิกฤตด้านน้ำ โดยมีสาเหตุมาจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมีปริมาณมากขึ้นทั้งในด้านการอุปโภคบริโภค การบริการ และการผลิต ซึ่งร้อยละ ๘๐ ของน้ำที่ผ่านการใช้ จะกลายเป็นน้ำที่มี
การปนเปื้อนปล่อยกลับลงสู่แหล่งน้ำ ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจจะก่อให้เกิด
ภัยแล้งและอุทกภัย ทำให้การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบเป็นไปด้วยความท้าทายมากยิ่งขึ้น
ในปีนี้ เป็นปีเริ่มต้นทศวรรษใหม่ องค์การสหประชาชาติจึงมีนโยบายให้เป็นทศวรรษแห่งการร่วมลงมือปฏิบัติของทุกประเทศเพื่อจะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของการบริหารจัดการน้ำ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจของ
ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ซึ่งประเทศไทยได้กำหนดแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำ
โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ เพื่อจะสร้างความสมดุลในด้านการดำเนินชีวิต การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
รัฐบาลจึงขอเชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนทุกท่าน ร่วมมือร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้ประเทศไทยสืบต่อไป
ขอบคุณครับ