วันอังคารที่ 5 มกราคม 2564
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ รับฟังแนวทางการทำงาน เดินหน้าลดสถิติผู้ต้องขังกระทำผิดซ้ำ เล็งสร้างงาน สร้างอาชีพ สั่งเรือนจำ เพิ่มวิชาโหราศาสตร์ หลังการอบรมภาษาอังกฤษ - จีน ได้ผลตอบรับดี
ในวันจันทร์ที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ อาคารกระทรวงยุติธรรมแห่งใหม่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการราชทัณฑ์ เพื่อรับฟังปัญหา รายงานสรุปผลการดำเนินงานปี ๒๕๖๓ และติดตามนโยบาย โดยมี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายวิทยา สุริยะวงค์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คณะกรรมการราชทัณฑ์ และข้าราชการ ร่วมประชุม
โดยนายอายุตม์ ได้รายงานผลการดำเนินงานประจำปี ๒๕๖๓ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คือ ๑.การพัฒนาเแนวทางบริหารจัดการสาธารณูปโภค เช่น การอนุรักษ์พลังงาน การพัฒนาพื้นที่เรือนจำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสังคม การจัดอบรมภาษาต่างประเทศ โดยภาษาอังกฤษ มี ๒๓ เรือนจำ ทัณฑสถาน ผู้ผ่านการอบรม ๒,๐๓๘ คน ภาษาจีน ๓ เรือนจำ ทัณฑสถาน ผู้ผ่านการอบรม ๑๖๙ คน และการจัดอบรมบัญชีครัวเรือนให้ผู้ต้องขัง ๑๖ เรือนจำ ๑,๔๙๔ คน การฝึกวิชาชีพเกษตรและการเลี้ยงสัตว์ ๔ หลักสูตร คือ การเลี้ยงสุนัขเพื่อพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง รุ่นที่ ๑ ในเรือนจำทัณฑสถาน ๘๐ แห่ง ผู้ต้องขังเข้าร่วม ๒,๔๘๔ คนจำนวนสุนัขในโครงการ ๓๓๗ ตัว การส่งเสริมฝึกวิชาชีพปลูกทุเรียน รุ่นที่ ๑ ในเรือนจำทัณฑสถาน ๒๒ แห่ง มีผู้ต้องขังเข้าร่วม ๖๓๕ คน ทุเรียน ๕๓๓ ต้น การส่งเสริมการเลี้ยงไก่ชน รุ่นที่ ๑ ในเรือนจำทัณฑสถาน ๔๕ แห่ง ผู้ต้องขังเข้าร่วม ๑,๓๕๒ คน จำนวนไก่ชน ๓๑๒ ตัว โครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ (โคขุน) รุ่นที่ ๑ ในเรือนจำทัณฑสถาน ๒๓ แห่ง ผู้ต้องขังเข้าร่วม ๔๖๕ คน จำนวนโคเนื้อ(โคขุน) ๑๐๗ตัว
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า นโยบายกรมราชทัณฑ์ ปี ๒๕๖๔ คือ ๑. การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้เป็นมาตรฐาน พัฒนาสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ต้องขังในเรือนจำ ทั้งด้านเรือนนอน โรงเลี้ยงอาหาร สถานพยาบาล และการกำจัดขยะและสิ่งปฏิกูล ๒. การแก้ปัญหาผู้ต้องขังล้นเรือนจำ จัดทำข้อมูลพื้นที่และอัตราความจุของเรือนจำ ทัณฑสถานทั่วประเทศให้เป็นปัจจุบัน การจัดทำเตียงนอน ๒ ชั้น การพักการลงโทษกรณีปกติ และกรณีมีเหตุพิเศษ การเลื่อนชั้นนักโทษเด็ดขาด ๓. พัฒนาองค์กรให้ทันสมัยและโปร่งใส ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสมันใหม่ ใช้ระบบขายสินค้าและเงินฝากผู้ต้องขังด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ติดตั้งระบบเยี่ยมญาติทางไกลด้วยแอปพลิเคชันไลน์ และการใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ พัฒนาบุคคลาการมีการอบรมให้ความรู้ให้ทันสมัย และ ๔. การคืนคนดีสู่สังคมและติดตามผู้พ้นโทษ
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถิติที่ผ่านมา มีผู้ต้องขังส่วนหนึ่งประมาณ ๓๕% อยากทำงาน แต่ไม่มีงานอะไรให้ทำ ส่วนอีก ๑๕% ไม่อยากทำงานและกลับไปทำผิดซ้ำอีก ตนได้เคยไปติดตามผู้ต้องขังที่เข้าเข้าออกเรือนจำ ๘-๙ ครั้ง เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่รู้จะประกอยอาชีพอะไร ซึ่งหากไม่รีบแก้ปัญหาจะเสียเวลาและเปล่าประโยชน์ในการทำงาน ในส่วนของการสร้างอาชีพ อย่างการเลี้ยงไก่ชน คนอาจจะมองดูเหมือนเป็นการพนัน แต่ตนพยายามให้เห็นในมุมที่เป็นประโยชน์
ตนพยายามส่งเสริมวิชาชีพให้ผู้ต้องขัง คนกลุ่มนี้จะได้มีโอกาส มีที่ยืนในสังคม ต้องลดสถิติผู้กระทำผิดซ้ำให้ได้ พยายามผลักดันกันเต็มที่ทั้งการเรียนการสอน การเลี้ยงสัตว์ ที่ไปทำอาชีพได้ รวมถึงการฝึกเพาะปลูก เช่น การปลูกทุเรียน เรามีเรือนจำหลายจังหวัดมีพื้นที่ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ หากปลูกแล้วมีผลผลิต แสดงว่าปลูกได้ ชาวบ้านจะได้ปลูกตาม เป็นการนำร่อง จากนี้ต้องฝากกรมราชทัณฑ์เพิ่มหลักสูตรวิชาโหราศาตร์ เพราะมีต้นทุนที่ต่ำมาก การหัดให้ผู้ต้องขังนั่งสมาธิ และอ่านหนังสือโหราศาสตร์ ขณะที่การขายของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ต้องเป็นมาตรฐาน และพยายามยกระดับให้เป็นแบรนด์เนมเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
- การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35
ข่าวกระทรวง
วีดิทัศน์รายการ/คลังภาพ
วาระงาน