วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน 2563
กรมการค้าภายในผลกระทบต่อโรงสีข้าวจากการแจ้งข้อมูลประกันราคาข้าวไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
กรมการค้าภายในผลกระทบต่อโรงสีข้าวจากการแจ้งข้อมูลประกันราคาข้าวไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีกรมการค้าภายใน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของโรงสีกรมการค้าภายในได้เชิญหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในช่วงนี้ที่ผลผลิตข้าวเปลือกฤดูกาลผลิต 2563/64 ออกสู่ตลาดมาก ในขณะนี้ เนื่องจากการชะลอตัวของตลาด ทั้งการบริโภคภายใน และการส่งออกต่างประเทศ จากผลกระทบของสถานการณ์ COVID – 19 ซึ่งที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สรุปได้ดังนี้ ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินพิจารณา ดังนี้
(1) ไม่ปรับลดวงเงินสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการค้าข้าว ในขณะนี้ เนื่องจากราคาข้าวเปลือกปัจจุบันเป็นราคาตลาดโดยเฉพาะข้าวหอมมะลิปรับตัวลดลงจากช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสในการแข่งขันกับตลาดโลกได้ การเข้าไปซื้อข้าวเปลือกในขณะนี้จึงมีความเสี่ยงต่ำในการทำตลาดมากกว่าช่วงที่ผ่านมา
(2) เพิ่มวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการ ในการใช้สต๊อกข้าวเป็นหลักประกัน อย่างน้อยร้อยละ 80 ของมูลค่าสต๊อกข้าวที่ใช้เป็นหลักประกัน เนื่องจากผู้ประกอบการมีสินทรัพย์อย่างอื่นเป็นหลักประกันร่วมด้วย
(3) ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการค้าข้าวตามมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID – 19 ตามนโยบายของรัฐบาล (อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี โดยปลอดดอกเบี้ย 6 เดือนแรก) ซึ่งมีการขยายระยะเวลาโครงการถึง 22 เมษายน 2564 เห็นควรขอกันวงเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยไว้สำหรับผู้ประกอบการค้าข้าว
(4)ให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการค้าข้าว ซึ่งไม่เป็น NPL ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข
(5) ปรับโครงสร้างหนี้ให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่มีแนวโน้มประสบปัญหาในการชำระหนี้
ขอความร่วมมือธนาคารแห่งประเทศไทย ประสานทำความเข้าใจกับธนาคารพาณิชย์ในการลดเงื่อนไขการให้สินเชื่อ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) แก่ผู้ประกอบการค้าข้าว เพื่อให้เกิดการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรในช่วงนี้ ในอันที่จะรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก
ทั้งนี้ การพิจารณาแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของสถาบันการเงินจะเป็นไปตามความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจของโรงสีในแต่ละรายเป็นกรณีไป
.......................