วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2563
สรุปการตอบกระทู้ถามในการประชุมวุฒิสภา วันจันทร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
เรื่อง ปัญหาการเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐ
ผู้ตั้งกระทู้ถาม นายมณเฑียร บุญตัน
ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ผู้ตอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ผู้ถาม : นายมณเฑียร บุญตัน ถามกระทู้โดยสรุปดังนี้
ภายหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๔๐ ส่งผลให้มีการตระหนักถึงการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ประกอบกับมีพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารทางราชการ พ.ศ. ๒๕๔๒ จนถึงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา ๕๙ ได้กำหนดให้หน่วยงานของรัฐเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสาธารณะในส่วนที่เปิดเผยได้ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก แต่มีข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและทัศนคติของเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง รวมถึงฝ่ายการเมือง อีกทั้งในอดีตเว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของภาครัฐที่ให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยสะดวก ได้นำการเข้าถึงเว็บไซต์ของคนพิการมาเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการประเมิน ซึ่งคนพิการสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของรัฐได้ไม่ถึงร้อยละ ๑๐ แตกต่างจากประเทศสหรัฐอเมริกาที่คนพิการสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของรัฐได้ถึงร้อยละ ๙๒ ในอดีตประเทศไทยขำดโครงสร้างทางกฎหมายที่จะเอื้อให้ระบบข้อมูลข่าวสารของรัฐเข้าถึงได้โดยสะดวก โดยปัจจุบันข้อมูลข่าวสารของรัฐใช้เว็บไซต์ที่เข้าถึงยาก ประชาชนยังคงใช้เอกสารในการเข้าถึงข้อมูลของรัฐ ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่เกิดการบูรณาการการเชื่อมโยงข้อมูล อย่างไรก็ดี ข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐที่เป็นความจริง ไม่มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน
- ขอเรียนถามว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ดำเนินการวางมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนดเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ความปลอดภัย และเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกสำหรับประชาชนอย่างไร และมีนโยบายที่จะส่งเสริมให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติตามมาตรฐาน เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารมีความเชื่อมโยง ความปลอดภัยและเอื้อต่อการเข้าถึงได้โดยสะดวกอย่างไร อีกทั้งกฎหมายข้อมูลข่าวสารที่จะตราเพื่อรองรับมาตรา ๕๙ ของรัฐธรรมนูญจะมีหลักการอย่างไร เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารที่เปิดเผยเป็นไปตามมาตรฐานที่กระทรวงได้กำหนดขึ้น และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ตลอดจนควรกำหนดการพัฒนาบุคลากรหรือการเข้าร่วมเป็นภาคีหรือมีส่วนร่วมในประชาคมระหว่างประเทศ เพื่อกำหนดมาตรฐานของประเทศไทยและนำมาใช้หรือไม่อย่างไร
ผู้ตอบ : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตอบชี้แจงกระทู้โดยสรุปดังนี้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมผู้ถูกตั้งกระทู้ถามตอบชี้แจงว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันข้อมูลคือ สิ่งสำคัญที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดินโดยเฉพาะการนำข้อมูลต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ในเชิงวิเคราะห์และนำไปใช้ในเรื่องงบประมาณ การพัฒนาประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลที่รับผิดชอบให้หน่วยงานของรัฐมาใช้ระบบดิจิทัลแต่เนื่องจากปัจจุบันสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลได้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีไม่ได้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้แนวทางการดำเนินการในช่วงหลังอาจไม่ตรงกัน จึงได้แก้ปัญหาโดยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นกรรมการในคณะกรรมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรีและเข้าร่วมประชุมเพื่อให้การทำงานมีความสอดคล้อง มีแนวทางการพัฒนาการนำข้อมูลดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐให้เป็นฐานข้อมูลเดียวกันและในปีพ.ศ. ๒๕๖๔ รัฐบาลจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบฐานข้อมูลกลางของภาครัฐ โดยนำหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจมำพัฒนาการเก็บข้อมูล (Cloud) มาใช้ที่เดียวกัน ต่างจากในอดีตที่ข้อมูลหน่วยงานของรัฐแยกกัน และไม่มีความพร้อมเข้าสู่ระบบดิจิทัล การรวบรวมข้อมูลภาครัฐเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันมีความยากและแตกต่างกัน ทั้งนี้ ปีที่ผ่านมาสำนักงบประมาณได้ยุติการสนับสนุนงบประมาณที่หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยจะเช่า Cloud เพื่อเก็บข้อมูลของหน่วยงาน ฉะนั้น หน่วยงานของรัฐจึงต้องเก็บข้อมูลไว้ที่การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ช่วยประหยัดงบประมาณการเก็บข้อมูล ส่งผลให้มาตรฐานการเก็บข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกัน การนำข้อมูลขนาดใหญ่มาใช้ประโยชน์ และเกิดรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (E - Government) ซึ่งจะมีการหารือการเขียนโปรแกรมกับทุกหน่วยงาน เนื่องจากข้อมูลแต่ละหน่วยงานมีควำมหลากหลายและแตกต่างกัน จึงกำหนดให้การเข้าถึงข้อมูลแต่ละประเภทมีเหมาะสม และเมื่อรวมข้อมูลของหน่วยงานของรัฐไว้ที่เดียวกัน มีรูปแบบเดียวกัน การเข้าถึงและการเปิดเผยข้อมูลให้กับประชาชนย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้น หน่วยงานของรัฐต้องปรับวิธีคิดของผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ ให้เข้าใจและพร้อมที่จะเปลี่ยนหน่วยงานของตนเข้าสู่กระบวนการทางดิจิทัล นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยตั้งเจ้าหน้าที่บริหารที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องระบบดิจิทัลหรือการบริหารจัดการหน่วยงานของตน และติดตามการทำงานของหน่วยงานของตนเข้าสู่กระบวนการดิจิทัล หรือรัฐบาลดิจิทัลตลอดทุกเดือน ซึ่งจะได้เห็นการบูรณาการการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานของรัฐทุกแห่ง และมีสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทำหน้าที่ตรวจสอบและจัดทำมาตรฐานเกี่ยวกับอุปกรณ์ดิจิทัล ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานดิจิทัลของประเทศไทย และมาตรฐานเทียบเคียงสากลโดยคำนึงถึงมาตรฐานในประเทศด้วย เพื่อให้สามารถปฏิบัติได้จริงและคำนึงถึงประโยชน์ของรัฐและประชาชน ส่วนการพัฒนาเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาสู่รัฐบาลดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาล สำหรับการรักษาความปลอดภัยระบบข้อมูลหน่วยงานของรัฐและการสื่อสำรทางดิจิทัล ได้มีการเตรียมความพร้อมและพัฒนาให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยป้องกันมิให้ข้อมูลของหน่วยงานถูกละเมิดและนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมพร้อมให้การสนับสนุนการช่วยเหลือต่อไป
ข่าวทำเนียบรัฐบาล
- การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35
ข่าวกระทรวง
วีดิทัศน์รายการ/คลังภาพ
วาระงาน