วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชี้แจงข้อวิจารณ์ “โครงการกำลังใจ” จากงบประมาณ พ.ร.ก.เงินกู้ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่บุคลากรสมาชิก อสม. รพ.สต. และ อสส.ที่ปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์ พยาบาล ยกระดับงานสาธารณสุขในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้งเป็นการกระตุ้นการเดินทางจากภาครัฐโดยตรง ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเยียวยาผู้ประกอบการและบุคลากรด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบให้สามารถประคองธุรกิจและประกอบอาชีพได้ โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาดูงาน (2 วัน 1 คืน) คนละ 2,000 บาท เดินทางโดยใช้บริการของบริษัทนำเที่ยวในประเทศที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเป็นผู้ประกอบการนำเที่ยวที่แท้จริง และเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดช่องโหว่ในกรณีที่จะมีหน่วยงานในระดับตำบลหรือจังหวัด หรือในท้องถิ่นตั้งบริษัทนำเที่ยว เป็นการเฉพาะ เพื่อแสวงหาประโยชน์ในโครงการนี้
ทั้งนี้ ททท. ร่วมกับธนาคารกรุงไทย ได้ประชุมรับฟังและวางแผนงานกับกลุ่มผู้ประกอบการ ทั้งสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆ ในหลายๆ วาระ เพื่อกำหนดคุณภาพ มาตรฐานการบริการ การตรวจสอบการเดินทางจริงให้รัดกุมที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรวบรวมบุคลากรไปยังธุรกิจรายใดรายหนึ่ง ได้มีข้อตกลงที่จะร่วมกันกำหนดจำนวนบุคลากรมากสุด ที่แต่ละบริษัทจะสามารถรับไปดำเนินการได้ แต่ต้องไม่เกินจำนวนดังกล่าว เพื่อให้เกิดการกระจายโอกาสอย่างแท้จริงอีกประการหนึ่งด้วย
ในส่วนของการดำเนินการ มีรายละเอียด ดังนี้
- ขั้นตอนแรก บริษัทนำเที่ยวจะต้องจดทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 เท่านั้น เพราะเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์จริง ไม่สามารถจัดตั้งบริษัทใหม่มาผูกขาดได้
- ขั้นตอนที่สอง บุคลากร อสม. รพ.สต. อสส. ต้องเปิดแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันเดินทางกับแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ของบริษัทนำเที่ยว เพื่อยืนยันตัวตนและการเดินทางจะใช้ระบบสแกนแอปพลิเคชั่นของธนาคารกรุงไทยทุกคน โดยไม่ได้ใช้เพียงบัตรหรือรายชื่อเท่านั้น
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวพิจารณาตรวจสอบคุณภาพของรายการนำเที่ยว ทั้งนี้ เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว บริษัทไม่สามารถยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงรายการนำเที่ยวได้
- เมื่อรายการนำเที่ยวผ่านการตรวจสอบ และบริษัทลงทะเบียนแอปพลิเคชั่นถุงเงินเรียบร้อยแล้ว จึงจะนำรายการนำเที่ยวขึ้นเสนอใน www.เที่ยวปันสุข.ไทย ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2563
- ในช่วงวันที่เดินทางจริง (ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม - 31 ตุลาคม 2563) บริษัทนำเที่ยวจะต้องใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงิน สแกน QR Code ของแอปพลิเคชั่นเป๋าตังของคณะเดินทางทุกคน (อสม. รพ.สต. และ อสส.) เพื่อยืนยันพิกัดการเดินทาง จำนวน 2 ครั้ง ในวันแรกและวันที่สอง และใช้เป็นหลักฐานสำคัญประกอบการเบิกค่าใช้จ่าย
- บริษัทนำเที่ยวจะต้องเก็บหลักฐานการเดินทางของคณะ ในรูปแบบเอกสาร เป็นระยะเวลา 1 ปี และสามารถนำมาแสดงในกรณีที่ต้องรับการตรวจสอบเพิ่มเติมได้ อาทิ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว รายการนำเที่ยว ไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน รายชื่อผู้เข้าพักรับรองโดยทางโรงแรม ประกันอุบัติเหตุและภาพถ่ายหมู่ของคณะทุกคน จำนวน 4 ภาพ
....................................................................................................................