๒. กระทู้ถามเป็นหนังสือ จำนวน ๒ เรื่อง ดังนี้
กระทู้ถามเป็นหนังสือ ลำดับที่ ๑
เรื่อง การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และประชาชนอย่างรุนแรง
ผู้ตั้งกระทู้ถาม พันตำรวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา
ถาม นายกรัฐมนตรี
ผู้ตอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปะอาชา)
ผู้ถาม : พันตำรวจตรี ยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา ถามกระทู้โดยสรุปดังนี้
ตามที่ได้เกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่มีค่ามลพิษทางอากาศสูง ๗ เท่าของมาตรฐาน ติดอันดับเมืองที่มีมลพิษทางอากาศรุนแรงที่สุดในโลก เพราะเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เรียกว่า PM ๒.๕ ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองกระทบต่อหลายภาคส่วนทำให้มีผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจ โรคผิวหนังและโรคตาเพิ่มมากขึ้นร้อยละ ๓๙ สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ โดยมีมูลค่าสูงถึง ๑.๗๙ ล้านล้านบาท หรือร้อยละ ๑๑.๖๒ ของ GDP ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงขอถามว่า รัฐบาลมีมาตรการที่จะติดตามการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีอย่างเข้มงวดและจริงจังหรือไม่ เช่น ในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมให้แต่ละจังหวัดรายงานผล PM ๒.๕ ต่อคณะรัฐมนตรีทุก ๑๕ วัน เพื่อให้คณะรัฐมนตรีทราบและสั่งการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที่ได้หรือไม่ และจะสนับสนุนให้มีการศึกษาผลกระทบของ PM ๒.๕ ต่อการท่องเที่ยวและสุขภาพของประชาชนหรือไม่ เพื่อประกอบการสนับสนุนงบประมาณสำหรับการป้องกันการสูญเสีย และมีมาตรการส่งเสริมให้ภาคเอกชนหรือท้องถิ่น ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและให้มีการทำเกษตรเชิงนิเวศหรือพืชเกษตรแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวหรือนำเครื่องมือเกษตรมาช่วยทำฟางเป็นก้อนเพื่อขายเป็นอาหารสัตว์หรือขายเป็นพลังงานทางเลือก สนับสนุนท้องถิ่นและชุมชนด้านงบประมาณและวิชาการหรือไม่ อีกทั้ง มีแนวทางขอความร่วมมือหรือประสานกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อลดความรุนแรงของปัญหามลพิษทางอากาศหรือหมอกควันหรือไม่ ตลอดจนมีนโยบายหรือมาตรการที่จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้วาระแห่งชาติเรื่อง “การแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละออง” สัมฤทธิ์ผลหรือไม่อย่างไร
ผู้ตอบ : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปะอาชา) ตอบกระทู้ถามโดยสรุปดังนี้
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง โดยมีมาตรการดังนี้ ๑) การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ๒) การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง ๓) การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ โดยมีการติดตามและรายงานความก้าวหน้าของการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแบ่งออกเป็น ๒ ระยะ คือ ระยะวิกฤตช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคมให้รายงานทุกวัน และระยะยาว พ.ศ. ๒๕๖๓ ถึง พ.ศ. ๒๕๖๗ กำหนดรายงานการแก้ไขปัญหาทุกปี สำหรับการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังสถานการณ์ ประเมินความเสี่ยง และสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนทุกวัน และจัดตั้งคลินิกเฉพาะทางรักษาผู้ป่วยจากมลพิษใน ๓ จังหวัดภาคเหนือ จัดลำดับการเผาทางการเกษตร โดยการลงทะเบียนและเร่งเปลี่ยนพื้นที่เกษตรทั้งหมดใน ๙ จังหวัดภาคเหนือ ไปสู่การเป็นเกษตรปลอดการเผา ภายใน ๓ ปี กำกับให้ภาคเอกชนโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์งดสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตรที่มาจากการบุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กับสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเชิงวิชาการที่ถูกต้องกับประชาชนเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและได้สร้างความร่วมมือกับประเทศอาเซียนในการป้องกันและลดผลกระทบจากปัญหาหมอกควันข้ามแดนมาอย่างต่อเนื่อง ได้มีการลงนามในข้อตกลงอาเซียน เรื่อง “มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน” เพื่อร่วมแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนในระดับภูมิภาคอาเซียน และร่วมกำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นอกจากนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ขอรับการจัดสรรวงเงินงบประมาณ
๑ ล้านบาทต่อจังหวัดจากงบกลาง เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานป้องกันปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ๙ จังหวัด
กระทู้ถามเป็นหนังสือ ลำดับที่ ๒
เรื่อง การประกาศให้สารเคมีทางการเกษตร ๓ ชนิด เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ ๔
ผู้ตั้งกระทู้ถาม สมชาย ชาญนรงค์กุล สมาชิกวุฒิสภา
ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ผู้ตอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปะอาชา)
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์) เป็นผู้ตอบแทน แต่โดยที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดภารกิจเดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงไม่สามารถมาตอบกระทู้ถามในวันนี้ และขอเลื่อนการตอบกระทู้ถามเรื่องนี้ออกไปเป็นวันจันทร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๒
(โปรดตรวจสอบการถาม-ตอบ กระทู้ถามที่เป็นทางการ จากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอีกครั้ง)