๑. กระทู้ถามด้วยวาจา จำนวน ๒ เรื่อง ดังนี้
กระทู้ถามด้วยวาจา ลำดับที่ ๑
เรื่อง ภาษีการขายฝากที่ดินเพื่อการเกษตรหรือที่อยู่อาศัย
ผู้ตั้งกระทู้ถาม นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา
ถาม นายกรัฐมนตรี
ผู้ตอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์)
ผู้ถาม : นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา ถามกระทู้โดยสรุปดังนี้
ความเหลื่อมล้ำทางสังคมเกิดขึ้นกับเกษตรกรยากจนมาเป็นเวลายาวนานจากเรื่องการขายฝาก ซึ่งผู้ที่ได้เปรียบคือผู้ซื้อฝากเพราะเมื่อทำสัญญาขายฝาก ณ ที่ใดกรรมสิทธิ์ก็โอนจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อในทันที มียกเว้น คือ เว้นแต่จะมาไถ่ถอนในระยะเวลาที่กำหนด แต่ประเด็นที่ยังไม่ได้แก้ไข คือ เมื่อกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บัญญัติว่า “การขายฝากเป็นเหมือนการขายประเภทหนึ่ง” สรุปก็คือการกู้ยืมเงินผ่านการขายฝากเมื่อถูกถือว่าเป็น การซื้อขายเสียแล้ว จึงมีการกำหนดให้เงินที่ได้จากการขายฝากถือเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทหนึ่ง ตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๓๙ ประกอบมาตรา ๔๐ (๘) และมาตราอื่น จึงก่อให้เกิดการหักภาษี ณ ที่จ่ายขึ้นมาทันที ถือเป็นหน้าที่ของผู้ซื้อฝากในกรณีนี้คือนายทุนเงินกู้ ในทางปฏิบัติผู้ซื้อฝากหรือนายทุนเงินกู้จะกำหนดรวมภาษีนี้ไว้ในราคาไถ่ถอน เพราะฉะนั้นโดยสรุปแล้วคนยากจนต้องแบกรับภาระภาษีทั้งหมด ขอถามว่า
๑. การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ชาติเป็นแผนการปฏิรูปที่สำคัญ รัฐบาลมีนโยบายจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
๒. ในเรื่องของภาษี เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะยกเว้นภาษีการขายฝากเฉพาะการขายฝากที่เข้าตาม พระราชบัญญัติคุ้มครองประชาชนว่าด้วยการขายฝากที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย
ผู้ตอบ : รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายสันติ พร้อมพัฒน์) ตอบกระทู้ถามโดยสรุปดังนี้
๑. กฎหมายที่มาแก้ไขการขายฝากมีข้อจำกัดหลายประการ ต้องแก้ไขกฎหมายต่อเนื่องหลายฉบับ เรื่องภาระภาษีเงินได้ที่ผู้ขายฝากถูกเอาเปรียบจากผู้รับซื้อฝาก กระทรวงการคลังกำลังศึกษาทั้งผลดีและผลกระทบ ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังประชุมและทำวิจัยถึงผลได้ผลเสียและจะทำอย่างรอบคอบที่สุด
๒. ยินดีรับข้อเสนอแนะนี้ไปหารือระหว่างกระทรวงการคลังและเจ้าหน้าที่ที่พิจารณาภาษีนี้อยู่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วและการยกเว้น แต่อย่างไรก็ดีการปรับเรื่องของภาษีต้องพิจารณาให้รอบคอบ
(โปรดตรวจสอบการถาม-ตอบ กระทู้ถามที่เป็นทางการ จากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอีกครั้ง)