กระทู้ถามด้วยวาจา
เรื่อง ปัญหาเด็กหรือวัยรุ่นขับรถยนต์/รถจักรยานยนต์ โดยไม่มีใบขับขี่และขับด้วยความประมาท
ผู้ตั้งกระทู้ถาม นายวัลลัภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา
ถาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ผู้ตอบ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอภิรัฐ รัตนเศรษฐ)
ผู้ถาม : นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ถามกระทู้โดยสรุปดังนี้
จากรูปภาพที่นำเสนอจะสื่อให้เห็นว่าสถานการณ์จริง ๆ บนท้องถนนรุนแรงกว่าในภาพที่นำเสนอจากการจัดสถิติอันตรายบนท้องถนนของ WTO เกี่ยวกับประเทศที่เกิดอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนในปี ๒๕๖๐ ประเทศไทยเลื่อนจากอันดับ ๓ มาเป็นอันดับ ๑ ที่มีการเสียชีวิตสูงสุดของโลก คือ เสียชีวิต ๓๖.๒ รายต่อประชาชน ๑ แสนคน สาระสำคัญของอันตรายบนท้องถนนมี ๓ เรื่อง ๑) ไม่มีใบขับขี่ ๒) ไม่สวมหมวกกันน็อค และ ๓) อยู่ในภาคของการขับขี่อันตรายหรือเรียกว่าเด็ก สถิติอุบัติเหตุเปรียบเทียบเป็นรายวัน ในรอบ ๒๔ ชั่วโมง เหตุเกิดวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บ ๒,๒๕๖ ราย เสียชีวิต ๕๐ ราย เกิดจากจักรยานยนต์ ๓๕ ราย วันต่อมาวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ เกิดอุบัติเหตุ ๒,๒๐๕ คน เสียชีวิต ๔๒ ราย เกิดจากจักรยานยนต์ ๓๐ ราย ชี้ให้เห็นว่าทุกวันมีการบาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ตลอดเวลา ในสถิติเด็กไทยเสียชีวิตจากอุบัติเหตุวันละ ๑๐ ราย ส่วนใหญ่ไม่สวมหมวกกันน็อค กรุงเทพฯ มีการสวมหมวกกันน็อค ร้อยละ ๘๕ จังหวัดที่เหลือทั้งหมดต่ำกว่าครึ่งทั้งสิ้น สถิติในปี ๒๕๕๓ ประชากรที่ขับรถทั้งประเทศ ๒๐ ล้านคัน ๗ ล้านคัน ไม่มีใบขับขี่ เป็นเด็ก ๓,๐๐๐,๐๐๐ คน ไม่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์
๑. รัฐบาลมีมาตรการในการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากเด็กและวัยรุ่น
ขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์โดยไม่มีใบขับขี่และขับโดยประมาท เน้นกลุ่มที่มีอายุน้อยที่ยังไม่ถึงเกณฑ์มีใบขับขี่รัฐบาลจะมีมาตรการป้องกันและแก้ไขอย่างไร
๒. ฝากให้รัฐบาลดูแล ดังนี้ ๑) ให้การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ๒) ประสานกับผู้อำนวยการสถาบันการศึกษาให้มีที่จอดรถจักรยานยนต์ให้กับเด็กและให้สำรวจว่ารถทุกคันที่มาจอดเป็นของใครแต่ละคนมีใบขับขี่หรือไม่ สวมหมวกกันน็อคหรือไม่ และ ๓) เหตุการณ์อันตรายที่เกิดขึ้นจากวัยรุ่นนัดกันในเฟสบุ๊ค ในไลน์กลุ่มเพื่อแข่งรถทำให้เกิดอันตรายและรบกวนชาวบ้าน เน้นการบังคับใช้กฎหมายและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในตอนกลางคืนจะทำให้เด็กไม่ออกไปแข่งรถข้างนอกและไม่เกิดอันตราย
ผู้ตอบ : รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายอภิรัฐ รัตนเศรษฐ) ตอบกระทู้ถามโดยสรุปดังนี้
๑. จากข้อมูลสถิติปี ๒๕๖๑ ไทยลดลงมาเป็นอันดับ ๙ ของโลก อย่างไรก็ดีตัวเลขความสูญเสีย
บนท้องถนนยังคงสูงอยู่ กลุ่มวัยที่มีการสูญเสียบนท้องถนน คือ กลุ่มอายุ ๑๕ – ๑๙ ปี รองลงมาอายุ ๒๐ – ๒๔ ปี มาตรการที่รัฐบาลดูแลโดยศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางท้องถนน คือ
(๑) มาตรการระยะสั้น ที่ทำทันที คือ มาตรการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดที่ผ่านมา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งที่ ๒๒/๕๘ และ ๔๖/๕๘ เพื่อให้ส่วนราชการทุกภาคส่วนมีการบังคับใช้กฎหมาย ๓ เรื่อง ๑) ไม่มีใบขับขี่ มีโทษจำคุกไม่เกิน ๑ เดือน ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท ๒) ไม่สวมหมวกกันน็อค
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ ปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท คนซ้อนไม่สวมหมวกกันน็อคปรับ ๒ เท่า คือ ๑,๐๐๐ บาท และ ๓) ยึดรถและแจ้งผู้ปกครองเพื่อทำทัณฑ์บน ผู้ปกครองต้องมาวางหลักทรัพย์ในการทำผิดครั้งแรก และถ้ามีการทำผิดซ้ำครั้งต่อไปจะมีการยึดหลักทรัพย์ที่ประกันไว้
(๒) มาตรการระยะยาว ควรมีการร่วมมือกันระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงศึกษาธิการ เพราะว่าการแก้ไขปัญหาระยะยาว คือ การปลูกฝังจิตสำนึก ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการโครงการปลูกจิตสำนึก มีมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยแก่เด็กและเยาวชน ได้แก่ โครงการปลูกฝังเด็กไทยใส่ใจจราจร กลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กอายุต่ำกว่าชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ มาร่วมทำกิจกรรมด้านความปลอดภัย
ทางถนน ให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องหมายจราจรและกฎหมายจราจร มีเยาวชนเข้าร่วม ๖๐,๐๐๐ ราย โครงการสนามจราจรเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถ กลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ – ๖ ให้ความรู้ฝึกทักษะการขี่จักรยานอย่างปลอดภัยในสถานที่จำลองก่อนออกมาใช้ถนนจริง มีผู้เข้าร่วมประมาณ ๕๐,๐๐๐ คน โครงการนักเรียนรุ่นใหม่มีใบขับขี่ ที่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกมีการออกใบอนุญาตการขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า ๕๐๐,๐๐๐ ใบ แต่ยังไม่ครอบคลุม จึงมีการส่งเสริมผ่านไปทางโรงเรียน ชุนชน ท้องถิ่น เพื่อให้เด็กที่อายุ ๑๕ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ได้มาทำใบขับขี่โดยผ่านกระบวนการอบรม ทดสอบ สมรรถภาพร่างกาย เสริมทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย ทดสอบข้อเขียน และการขับรถ ทั้ง ๓ โครงการมีผลทำให้อัตราการสูญเสียในปี ๒๕๖๑ ลดลง อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ยังได้มีโครงการพัฒนาการออกใบอนุญาตขับรถ โดยยกระดับผู้ขับขี่บนท้องถนนเนื้อหาหลักสูตร คุณภาพการอบรม คุณภาพการทดสอบข้อเขียน เพื่อให้ได้ผู้ขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทุกมิติ มีผลต่อการออกและต่อใบอนุญาตทั้งหมด สำหรับเรื่องการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวกับการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมมีการกวดขันเจ้าหน้าที่ให้เร่งรัดตรวจการขับรถที่ไม่มีใบอนุญาต การใช้รถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลง ที่ทำให้เป็นอันตราย รวมทั้งกวดขันเรื่องการชำระภาษี การทำประกันภัยภาคบังคับ เป็นมาต