วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563
พม. แถลง 14 ก.พ. นี้ เชิญคู่รักร่วมงานวันแห่งความรัก “พม.สื่อรัก Infinity of love” และชี้แจงกรณีชาวบ้านชุมชนคลองตัน คลอง 13 จ.ปทุมธานี ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนพื้นที่
พม. แถลง 14 ก.พ. นี้ เชิญคู่รักร่วมงานวันแห่งความรัก “พม.สื่อรัก Infinity of love” ที่ สนข.บางซื่อ และชี้แจงกรณีชาวบ้านชุมชนคลองตัน คลอง 13 จ.ปทุมธานี ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนพื้นที่ของกรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างคลองส่งน้ำและเขื่อน
วันนี้ (7 ก.พ. 63) เวลา 10.30 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ (พม.) จัดแถลงข่าวการดำเนินงานตามภารกิจสำคัญของกระทรวง พม. ดังนี้ 1) กิจกรรม “พม.สื่อรัก Infinity of love” วันที่ 14 ก.พ. 63 ณ สำนักงานเขตบางซื่อ โดยนายธนสุนทร สว่างสาลี รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และ 2) ชี้แจงกรณี ชาวบ้านชุมชนคลองตัน คลอง 13 จังหวัดปทุมธานีจำนวน 62 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนพื้นที่ของกรมชลประทาน เพื่อก่อสร้างคลองส่งน้ำและเขื่อน โดยนางสาวเฉลิมศรี ระดากูล ผู้อำนวยการสำนักงานภาคกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตะวันออก สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. โดยมี นายแฉล้ม ทองเกลา ผู้อำนวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวง พม. เป็นผู้ดำเนินการแถลงข่าว ณ บริเวณโถงชั้น 1 กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ
นายธนสุนทร กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) มีภารกิจหลักในการส่งเสริมความเสมอภาคและความเท่าเทียมระหว่างเพศและความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว โดยทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งสื่อมวลชน เนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก ตรงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 สค. ได้ร่วมกับสำนักงานเขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรม “พม.สื่อรัก Infinity of love” ภายใต้แนวคิด“สื่อสารสร้างสรรค์ สานสัมพันธ์ในครอบครัว” เพื่อเสริมสร้างสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว โดยเฉพาะคู่รักที่จะสร้างครอบครัวใหม่ รวมถึงให้สังคมตระหนักถึงความรักของสมาชิกในครอบครัว โดยภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ประกอบด้วย 1) กิจกรรม “รักกันก็ต้องบอก และแสดงออกด้วยท่าทาง กายใจไม่เหินห่าง ร่วมกันสร้างครอบครัวอบอุ่น ไร้ความรุนแรง” เป็นกิจกรรมการร่วมเล่นเกมเพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพในครอบครัว ด้วยการแสดงออกด้วยคำพูดหรือท่าทาง 2) การมอบคู่มือ/ชุดความรู้ สำหรับครอบครัว และของรางวัลให้แก่คู่รักที่มาจดทะเบียนสมรส ณ สำนักงานเขตบางซื่อ ซึ่งเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ชุดความรู้ที่น่าสนใจให้กับคู่รัก ครอบครัวใหม่ ประกอบด้วย คู่มือสื่อรัก ครอบครัวอบอุ่น เรียนรู้เข้าถึงใจ คนทุกวัยในครอบครัว ความรู้สำหรับพ่อแม่มือใหม่ และสติ๊กเกอร์ท่าทางและคำพูดที่สร้างสรรค์ที่ควรใช้ในครอบครัว เป็นต้น และ 3) กิจกรรมถ่ายภาพคู่รัก Infinity of love ทั้งนี้ สค. ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนี้ ด้วยการเปลี่ยนกรอบรูปโปร์ไฟล์ Face book Happy Valentine Day พม.สื่อรัก “สื่อสารสร้างสรรค์….สานสัมพันธ์ในครอบครัว” โดยประชาชนที่สนใจกิจกรรมเปลี่ยนกรอบรูป สามารถเข้าไปกดเปลี่ยนกรอบรูป
ด้วยการสแกน QR Code หรือเข้าไปที่ลิงค์ web.facebook.com/profilepicframes/?selected_overlay_id=466499827353283
นางสาวเฉลิมศรี กล่าวว่า ตามที่ปรากฎข่าวในสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 63 กรณีชาวบ้านชุมชนคลองตัน (คลอง 13) ตำบลบึงน้ำรักษ์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ได้รับผลกระทบด้านที่อยู่อาศัยจากโครงการก่อสร้างคลองส่งน้ำและประตูระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมของกรมชลประทาน บริเวณคลอง 13 อำเภอธัญบุรี ซึ่งจะต้องมีการรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากแนวก่อสร้างของกรมชลประทาน รวม 62 หลังคาเรือน โดย พอช. ได้เตรียมโครงการบ้านมั่นคงรองรับแต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ประสงค์ไม่อยากเข้าร่วมโครงการฯ เพราะมีรายได้น้อย และไม่อยากกู้เงินจาก พอช. มาสร้างบ้านใหม่ นั้น โครงการก่อสร้างของกรมชลประทานมีแผนระบายน้ำในช่วงน้ำท่วม โดยการผันน้ำผ่านคลองตันที่เชื่อมระหว่างคลอง 13 กับคลองรังสิตประยูรศักดิ์ โดยเริ่มก่อสร้างในปี 2561 คือ สะพานทิศเหนือ ทิศใต้ และประตูระบายน้ำ ต่อมาในปี 2562 จะสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วม แต่มีปัญหาอุปสรรค คือ บ้านเรือนของชาวบ้านที่ปลูกสร้างอยู่ริมคลอง ซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุอยู่ในการครอบครองของกรมชลประทาน โดยมีชาวบ้านหมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 5 ปลูกสร้างบ้านเรือนอยู่จำนวน 62 หลังคาเรือน ทางกรมชลประทานจึงมีมาตรการให้ชาวบ้านรื้อย้ายบ้านเรือนออกจากแนวก่อสร้าง ต่อมาชาวบ้านได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดปทุมธานี ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี พอช. ธนารักษ์จังหวัดปทุมธานี เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ และโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ เป็นต้น ได้ประชุมหารือร่วมกันที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี โดยมีข้อสรุปเบื้องต้นในการแก้ไขผลกระทบด้านที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ดังนี้ 1) พื้นที่ว่างหลังแนวก่อสร้างถนน ความกว้าง 12 เมตร ความยาว 1,646 เมตร ซึ่งเดิมกรมชลประทานจะใช้พื้นที่เพื่อปรับภูมิทัศน์ สามารถพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้านได้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยให้ พอช. สำรวจข้อมูลและวางแผนการใช้พื้นที่เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย จากนั้น จึงส่งเรื่องให้กรมชลประทานเพื่อให้แจ้งคืนพื้นที่ให้แก่ธนารักษ์พื้นที่ จ.ปทุมธานี 2) ชาวบ้านที่ประสงค์จะเข้าอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวจะต้องรวมตัวกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์เคหสถานขึ้นมา เพื่อขอเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์อย่างถูกต้องในอัตราผ่อนปรน โดย พอช. จะสนับสนุนเรื่องงบประมาณตามโครงการบ้านมั่นคง อาทิ การก่อสร้างสาธารณูปโภค งบช่วยเหลือก่อสร้างบ้าน และสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนชำระคืนระยะยาว ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลของ พอช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีชาวบ้านปลูกสร้างบ้านในที่ดินแนวก่อสร้างของกรมชลประทานทั้งหมด 62 หลังคาเรือน และมีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการบ้านมั่นคง 10 หลังคาเรือน (12 ครัวเรือน) และมีความประสงค์จะเช่าที่ดินอย่างเดียวจำนวน 32 หลังคาเรือน ย้ายออกไปซื้อที่ดินใหม่ 13 หลังคาเรือน ย้ายออกไปโดยไม่มีเงื่อนไข 6 หลังคาเรือน และไม่แจ้งความจำนงค์ 1 หลังคาเรือน
นางสาวเฉลิมศรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับชาวบ้านชุมชนคลองตัน 62 หลังคาเรือน ที่อยู่อาศัยในแนวก่อสร้างโครงการของกรมชลประทานนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ส่วนครอบครัวที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมกับโครงการบ้านมั่นคง ชาวบ้านจะต้องรวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์เคหสถาน เพื่อขอเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์อย่างถูกต้อง เพื่อจะได้เปลี่ยนสถานะจากผู้บุกรุกเป็นผู้เช่าที่ดินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นกรมธนารักษ์จะให้สัญญาเช่าช่วงแรก 30 ปี เหมือนกับที่ดำเนินการในคลองลาดพร้าว ทำให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง นอกจากนี้ พอช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะช่วยกันพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพชาวชุมชน เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวในระยะยาวต่อไป