วันนี้ (30 ตุลาคม 2562) เวลา 10.00 น. ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล นายโจเซฟ แอนโทนี คอตเตอร์ (Mr. Joseph Anthony Cotter) เอกอัครราชทูตไอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ สรุปสาระสำคัญการหารือดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับออท.ไอร์แลนด์ฯ ที่ได้รับตำแหน่งที่ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าประสบการณ์ทำงานของออท.ไอร์แลนด์ฯ จะส่งผลให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ไอร์แลนด์มีความแน่นแฟ้นขึ้นในทุกมิติ พร้อมย้ำความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาซึ่งเป็นผลจากการเสด็จพระราชดำเนินไอร์แลนด์ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2557 ที่มีส่วนสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ

ออท.ไอร์แลนด์ฯ ย้ำว่าไอร์แลนด์ให้ความความสำคัญกับไทยมาโดยตลอด และชื่นชมว่าไทยเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความมั่นคงทางการเมือง มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ และเป็นประเทศแห่งวัฒนธรรมอันงดงาม ซึ่งไอร์แลนด์หวังกระชับความร่วมมือกับไทยในทุกมิติ

ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่ายังมีโอกาสในการเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก ได้แก่ ด้านการศึกษา ทั้งสองฝ่ายประสงค์ให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักศึกษาของสองประเทศให้มากขึ้น โดยรองนายกรัฐมนตรีชื่นชมนโยบายการศึกษาของไอร์แลนด์ และพร้อมส่งเสริมให้ไอร์แลนด์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักศึกษาไทยในการศึกษาต่อ โดยเฉพาะสาขาที่ไอร์แลนด์มีความเชี่ยวชาญและสอดคล้องกับความต้องการของไทย เช่น วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและดิจิทัล ด้านการค้าและการลงทุน ไทยสามารถเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียนให้แก่ไอร์แลนด์ ในขณะเดียวกันไอร์แลนด์ก็สามารถเป็นสะพานเชื่อมต่อไทยไปยังสหภาพยุโรปเช่นกัน นอกจากนี้ภาคเอกชนไอร์แลนด์ยังสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการ EEC ของไทยด้วย ด้านการท่องเที่ยว ออท.ไอร์แลนด์ฯ ประสงค์ให้มีการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ-กรุงดับลิน เพื่อเพิ่มพูนจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกัน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาต่อไป

ในตอนท้ายรองนายกรัฐมนตรีย้ำเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่พร้อมร่วมมือกับไอร์แลนด์ในการสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือให้แน่นแฟ้นและใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศสืบไป