วันนี้ (25 ก.ย. 62) เวลา 13.30 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพแกนนำสภาเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นวิศวกรสังคม พร้อมมอบนโยบายแนวทางการขับเคลื่อนวิศวกรสังคมให้ผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) จัดการประชุมดังกล่าว ระหว่างวันที่ 25 – 27 กันยายน 2562 โดยมีผู้แทนสภาเด็กและเยาวชน เครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กและเยาวชน ผู้สังเกตการณ์ วิทยากร และเจ้าหน้าที่ ดย. รวมจำนวนทั้งสิ้น 175 คน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องราชา 1 ชั้น 11 โรงแรมปรินซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ให้ความสำคัญด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดให้กระทรวง พม. ส่งเสริมและสนับสนุนการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาชุมชน สังคม และประเทศชาติ โดยผ่านกระบวนการดำเนินกิจกรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่ภายใต้หลักการ “เด็กคิด เด็กทำ เด็กนำ ผู้ใหญ่หนุน” โดยจัดให้มีสภาเด็กและเยาวชนระดับตำบล สภาเด็กและเยาวชนเทศบาล สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ สภาเด็กและเยาวชนเขต สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด สภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ทั่วประเทศรวมจำนวนทั้งสิ้น 8,780 แห่ง
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมีนโยบายเตรียมความพร้อมให้เด็กและเยาวชนเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 โดยทักษะที่จำเป็น ประกอบด้วยมีความคิดสร้างสรรค์ สนใจ/ใส่ใจเรื่องเทคโนโลยี นวัตกรรม มีวิจารณญาณก่อนตัดสินใจ สามารถพูดคุยสื่อสารกับบุคคลต่างๆ นำเสนอหน้าสาธารณชนได้ดีมีจิตอาสา เต็มใจให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือโดยไม่หวังผลตอบแทน ติดตามข่าวความเคลื่อนไหว อัพเดตทุกข้อมูลข่าวสาร รู้เท่าทันสื่อ รอบรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ รู้จักช่องทางการสื่อสารอย่างถูกวิธี เช่น การสื่อสารกับผู้ใหญ่ การสื่อสารกับเด็ก การติดต่องานกับผู้ใหญ่ เป็นต้น มีความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต และการทำงาน รู้จักปรับตัวอยู่เสมอ ริเริ่มสิ่งใหม่ ใส่ใจดูแลตัวเอง สุขภาพและอนามัยในวัยเจริญพันธุ์ รู้จักเข้าสังคม ชอบพบปะเพื่อนใหม่อยู่เสมอ ชอบเรียนรู้ เข้าใจในวัฒนธรรมและความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีความเป็นผู้นำที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีวินัย มีความสนใจในการหาข้อมูล ประสบการณ์ใหม่ๆ หรือพัฒนาทักษะและอาชีพที่ทำอยู่เสมอ หมั่นหาความรู้รอบด้าน พร้อมเรียนรู้ ยอมรับ ปรับตัว ทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วอยู่เสมอ รวมทั้งเป็นแกนนำขับเคลื่อนการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ ปฏิเสธการโกงทุกรูปแบบ
นายจุติ กล่าวต่ออีกว่า กระทรวง พม. โดย ดย. ได้ขับเคลื่อนนโยบายวิศวกรสังคม จึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพแกนนำสภาเด็กและเยาวชนเพื่อเป็นวิศวกรทางสังคม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพสภาเด็กและเยาวชนให้สอดคล้องกับความเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และเป็นแกนนำวิศวกรทางสังคมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ทั้งนี้ เด็กและเยาวชนจะเป็นผู้ที่ขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีขึ้น โดยการวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาในพื้นที่ และหาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ 1. เสริม หมายถึง วิศวกรสังคมจะต้องลงไปส่งเสริมหรือหนุนเสริมกลุ่มเป้าหมายในสังคมให้สามารถดำเนินชีวิตในสังคมให้ดีขึ้น 2. สร้าง หมายถึง วิศวกรสังคมจะต้องลงไปสร้างสิ่งใหม่ๆ หรือสิ่งดีๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายในสังคม เมื่อวิเคราะห์แล้วว่ากลุ่มเป้าหมายยังขาดในสิ่งเหล่านั้นในสังคม และ 3. ซ่อม หมายถึง วิศวกรสังคมจะต้องลงไปซ่อมแซมสังคมเมื่อวิเคราะห์แล้วว่าสังคมมีความเสียหายหรือเสื่อมสภาพให้กลับมามีสภาพที่ดีขึ้น
“นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 6 – 8 กันยายน 2562 กระทรวง พม. โดย ดย. ได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพแกนนำและเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กและเยาวชน เพื่อเตรียมความพร้อมให้แกนนำสภาเด็กและเยาวชนและผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กและเยาวชนในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และเป็นแกนนำวิศวกรสังคมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ชุมชน สังคม และประเทศชาติและสร้างหลักสูตรพัฒนาศักยภาพแกนนำสภาเด็กและเยาวชนเพื่อให้เป็นวิศวกรสังคม โดยมีเนื้อหาที่สำคัญ ดังนี้ 1. กระบวนการเรียนรู้ตนเอง และสร้างความตระหนักในการเป็นวิศวกรสังคม 2. กระบวนการสร้างคุณค่า “ตัวตน ชุมชน สังคม” 3. กระบวนการเรียนรู้เพื่อการรู้เท่าทันสื่อ 4. กระบวนการคิดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ทางสังคมในทุกมิติ ได้แก่ มิติสังคม มิติเศรษฐกิจ มิติวัฒนธรรม/อัตลักษณ์ มิติสิ่งแวดล้อม และ 5. กระบวนการสานพลังเพื่อสังคมบ้านเกิด ทั้งนี้ กระทรวง พม. พร้อมร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนวิศวกรสังคมทั่วประเทศ ในปี 2563 ต่อไป” นายจุติ กล่าวในตอนท้าย