คำกล่าว
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เป็นประธานในพิธีกล่าวเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52
และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ณ ห้อง World Ballroom A-B ชั้น 23 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์
เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เวลา 09.15 น.
……………….
ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ
ท่านเลขาธิการอาเซียน
และผู้มีเกียรติทุกท่าน
ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกท่านในพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญอีกรายการหนึ่ง ภายใต้การเป็นประธานอาเซียนของไทย
เมื่อปี 2510 การหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนจาก 5 ประเทศ ที่บ้านแหลมแท่น ด้วย “จิตวิญญาณแห่งบางแสน” และการลงนามปฏิญญากรุงเทพฯ คือจุดเริ่มต้นการเดินทางของอาเซียน ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และความมั่งคั่งให้ภูมิภาค จากวันนั้นถึงวันนี้ จากสมาคมไปสู่ประชาคมของ 10 ประเทศ เราส่งต่อความมุ่งมั่นนี้จากรุ่นสู่รุ่น
วันนี้ เรากลับมาที่สถานที่ก่อตั้งอาเซียนอีกครั้ง เพื่อต่อเติมความมุ่งมั่นที่จะสร้างประชาคมอาเซียนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และมองไปสู่อนาคต ภายใต้แนวคิดหลัก “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” และเพื่อตอบคำถามสำคัญว่า เราจะสร้างประชาคมที่เติบโตอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายที่เผชิญอยู่ในภูมิภาคและโลกได้อย่างไร เราจะร่วมมือร่วมใจ กับหุ้นส่วนนอกภูมิภาคขับเคลื่อนความยั่งยืนในทุกมิติได้อย่างไร และที่สำคัญ ประชาชนทุกคนจะได้รับประโยชน์อะไร
ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ และผู้มีเกียรติทุกท่าน
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือ ร่วมใจของพวกเรา อาเซียนได้สร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมหลายประการ ที่สำคัญคือ การสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ โดยใน
การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 34 เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำอาเซียนได้ร่วมรับรอง
วิสัยทัศน์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งได้ผลักดันความร่วมมือเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ประชาชนโดยตรง ทั้งการเปิดตัว
คลังเก็บสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในอาเซียนที่จังหวัดชัยนาท และการยกระดับ
ศูนย์แพทย์ทหารอาเซียนให้เป็นองค์กรของอาเซียนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ อีกทั้งร่วมรับรองปฏิญญากรุงเทพฯ ว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเลในภูมิภาคอาเซียน
แต่อาเซียนอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายทุกประการได้โดยลำพัง เราจึงต้องเสริมสร้างความร่วมมือ ร่วมใจ กับประเทศคู่เจรจาอาเซียนและประเทศต่าง ๆ นอกภูมิภาค และเปิดรับความร่วมมือกับภาคีใหม่ ๆ เมื่อเดือนที่แล้ว ผมใช้โอกาสจากการเข้าร่วมประชุมผู้นำจี 20 ที่ญี่ปุ่น ในฐานะประธานอาเซียน ขยายผลลัพธ์จากการประชุมสุดยอด ครั้งที่ 34 ด้วยการหาช่องทางเสริมสร้างความร่วมมือใน 4 ประเด็นสำคัญคือ
หนึ่ง การใช้ประโยชน์จาก
เทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อเปิดโอกาสการเข้าถึงเงินทุนให้กับสตรี เยาวชน ผู้ประกอบการรายใหม่และรายย่อย และชุมชนห่างไกล
สอง การลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างเมืองและชนบท โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยขับเคลื่อน
เครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน
สาม การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การแก้ไขปัญหาขยะทะเล และการปรับตัวและบรรเทาผลกระทบจาก
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สี่ การพัฒนาทุนมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การพัฒนาทักษะ และการพัฒนาสาธารณสุข
ดังนั้น การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสดีที่เราจะสร้างความต่อเนื่องจากการประชุมต่าง ๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมจากประเด็นข้างต้นในสามแนวทาง ดังนี้
หนึ่ง การใช้ประโยชน์จาก
กลไกที่อาเซียนมีบทบาทนำ ไม่ว่าจะเป็น อาเซียนบวกสาม อีเอเอส เออาร์เอฟ และความร่วมมืออาเซียนกับประเทศคู่เจรจา เพื่อสร้างความยั่งยืนในทุกมิติ ให้อาเซียน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนอาเซียนทุกคน ตัวอย่างสำคัญประการหนึ่งคือการที่ไทย ในฐานะประธานอาเซียนได้เชิญประเทศนอกภูมิภาคเข้าร่วมการประชุมสัมมนาและนิทรรศการนานาชาติเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน ประจำปี 2562 ในเดือนสิงหาคม 2562 ที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความเป็นแกนกลางของอาเซียน
สอง การส่งเสริม
ความเชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยการใช้ประโยชน์จากแผนแม่บทว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียนฉบับปัจจุบัน กับยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยงต่าง ๆ นอกภูมิภาค ในมิติต่าง ๆ ทั้งการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม ความเชื่อมโยงระหว่างประชาชน ความเชื่อมโยงระหว่างกันทางการเงิน ความเชื่อมโยงระหว่างกันด้านดิจิทัล และความเชื่อมโยงระหว่างกันทางการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสนับสนุนการเจรจาจัดทำความตกลง
RCEP ให้แล้วเสร็จในปีนี้ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันของผู้นำประเทศ RCEP
สาม การเสริมสร้าง
ความมั่นคงในภูมิภาค ด้วยการเชิญชวนให้มิตรประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศเล็กหรือใหญ่ มาร่วมมือบนหลักการของ 3M ด้วยการสร้างบรรยากาศที่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เคารพและเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายระหว่างกัน และมุ่งสู่ผลประโยชน์ร่วมกัน อีกทั้งร่วมกันแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสันติวิธี และเพื่อสร้างและธำรงสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค สมกับเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งอาเซียนเมื่อ 52 ปีที่แล้ว
ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศ และผู้มีเกียรติทุกท่าน
ผมหวังว่าการประชุมในวันนี้ จะเป็นโอกาสที่ท่านจะได้ทบทวนความมุ่งมั่นร่วมกันนี้ และเส้นทางตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการแปรเจตนารมณ์สู่การปฏิบัติ และสร้างสรรค์ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมบนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่ดีกับมิตรประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและภูมิภาค และภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้เกิดขึ้นได้ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 52 เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาและสร้างคุณประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้เกิดขึ้นในประชาคมอาเซียนอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
ขอบคุณครับ