นายกฯ สั่งการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทุกมิติ ทั้งระยะสั้นระยะยาว ลดผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด
.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กห. กำชับเดินหน้าตามแผนรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในประเทศ ทั้งพื้นที่เมือง พื้นที่เกษตร และพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อฤดูหนาวเข้าสู่ฤดูร้อน ที่สภาวะอากาศนิ่ง ลมสงบ ส่งผลต่อการสะสมของฝุ่นละอองในบรรยากาศ ทำให้ระดับฝุ่นละอองมีค่าสูงขึ้น อีกทั้งอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ปีนี้มีความแห้งแล้งมากกว่าปีที่ผ่านมา จึงเป็นปัจจัยเสริมทำให้ PM2.5 อาจมีความรุนแรงขึ้น พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
.
กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข หากในจังหวัดใดมีค่าฝุ่นเกิน 51 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกันเกิน 3 วัน และเปิดศูนย์บัญชาการสถานการณ์ (OC) ระดับจังหวัด ในจังหวัดที่มีค่า PM 2.5 ระหว่าง 37.6-50 มคก./ลบ.ม. เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างเป็นระบบ
.
กระทรวงคมนาคม ยกระดับมาตรการออกตรวจวัดควันดำจากท่อไอเสียของรถบรรทุกและรถโดยสารในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ,ตรวจสภาพรถบรรทุกและรถโดยสาร เป็นต้น
.
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งรัดประชาสัมพันธ์เชิงรุกและแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วันทุกพื้นที่ ทั้งการจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร (ชิงเก็บ ลดเผา และ Burn Check) ลดจุดความร้อน และพัฒนาระบบพยากรณ์ ความรุนแรงและอันตรายของไฟ (Fire Danger Rating System : FDRS) เป็นต้น
.
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน ได้เตรียมออกประกาศ ยกระดับมาตรฐานคุณภาพอากาศให้เข้มงวดขึ้น โดยกำหนดมาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ใหม่ จากเดิมใช้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) เป็น ให้ค่าเฉลี่ยในเวลา 24 ชั่วโมง จะต้องไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. และค่าเฉลี่ยในเวลา 1 ปี จะต้องไม่เกิน 15 มคก./ลบ.ม. เริ่มบังคับใช้วันที่ 1 มิ.ย. 66 เป็นต้นไป
.
ขณะที่ กรมควบคุมมลพิษระบุว่า สถานการณ์ฝุ่นตอนนี้ ยังอยู่ในระดับ 3 มีผลกระทบต่อสุขภาพ ค่าฝุ่นในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 61 - 131 มคก./ลบ.ม. ตามหลักเกณฑ์แล้ว ยังไม่ถึงระดับที่จะต้องปิดสถานศึกษา แต่ขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง โดยยังไม่ถึงเกณฑ์ให้รัฐบาลมีข้อสั่งการให้ Work From Home และปิดสถานศึกษา
.
รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ กำหนดแนวทาง และมาตรการรับมือสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในทุกมิติ แจ้งเตือน และยกระดับมาตรการ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนใช้รถสาธารณะให้มากขึ้น หมั่นตรวจบำรุงรักษารถ สวมใส่หน้ากากทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อป้องกันตนเองจากฝุ่น