ประวัติ ชื่อเดิม แปลก ขีดตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2440 ณ บ้านแพ ปากคลองบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของนายขีด กับนางสำอาง ขีดตะสังคะ สมรสกับท่านผู้หญิงละเอียด (พันธุ์กระวี) ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจวาย ณ บ้านพักที่ตำบลซากามิโอโน ซานกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2507 รวมอายุได้ 67 ปี ประวัติการทำงาน พ.ศ.2462 ประจำกรมทหารบกปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ พ.ศ.2466 ประจำกรมยุทธศาสตร์ทหารบก
นายกรัฐมนตรี | ครม.คณะที่ 9 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 16 ธันวาคม 2481 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 7 มีนาคม 2485 โดยลาออก เพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงครม.ใหม่ วันแถลงนโยบาย 26 ธันวาคม 2481 ครม.คณะที่ 10 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 7 มีนาคม 2485 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 1 สิงหาคม 2487 โดยลาออก เพราะสภาไม่รับ พรก.นครบาลเพ็ชรบูรณ์ วันแถลงนโยบาย 16 มีนาคม 2485 ครม.คณะที่ 21 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 8 เมษายน 2491 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 25 มิถุนายน 2492 โดยสิ้นสุดลงเมื่อมีการเลือกตั้งส.ส. เพิ่มวันแถลงนโยบาย 21 เมษายน 2491 ครม.คณะที่ 22 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 25 มิถุนายน 2492 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 29 พฤศจิกายน 2494 โดยรัฐประหารนำโดยพล.อ.ผิน ชุณหะวัณ วันแถลงนโยบาย 6 กรกฎาคม 2492 ครม.คณะที่ 23 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 29 พฤศจิกายน 2494 โดยมติคณะ รัฐประหาร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 6 ธันวาคม 2494 โดยมีการแต่งตั้งสมาชิกประเภทที่ 2 ขึ้นใหม่ ครม.คณะที่ 24 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 6 ธันวาคม 2494 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 24 มีนาคม 2495 โดย มีการเลือกตั้งสมาชิกประเภทที่ 1 (ส.ส.) วันแถลงนโยบาย 11 ธันวาคม 2494 ครม.คณะที่ 25 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 24 มีนาคม 2495 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 21 มีนาคม 2500 โดยส.ส.ครบวาระมีการเลือกตั้งทั่วไป วันแถลงนโยบาย 3 เมษายน 2495 ครม.คณะที่ 26 นรม.ดำรงตำแหน่งวันที่ 21 มีนาคม 2500 โดยมติสภาผู้แทนราษฎร นรม.พ้นจากตำแหน่งวันที่ 16 กันยายน 2500 โดย รัฐประหารนำโดย จอมพล สฤษดิ์ธนะรัชต์ วันแถลงนโยบาย 1 เมษายน 2500 |
ประวัติ | ชื่อเดิม แปลก ขีดตะสังคะ เกิดเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2440 ณ บ้านแพ ปากคลองบางเขน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตรของนายขีด กับนางสำอาง ขีดตะสังคะ สมรสกับท่านผู้หญิงละเอียด (พันธุ์กระวี) ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคหัวใจวาย ณ บ้านพักที่ตำบลซากามิโอโน ซานกรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2507 รวมอายุได้ 67 ปี |
การศึกษา | โรงเรียนกลาโหมอุทิศ วัดเขมาภิรตาราม จังหวัดนนทบุรี โรงเรียนนายร้อยทหารบก โรงเรียนเสนาธิการ โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ประเทศฝรั่งเศส |
ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง | 1. รัฐบาลที่ 9 16 ธันวาคม 2481 - 6 มีนาคม 2485 2. รัฐบาลที่ 10 7 มีนาคม 2485 - 1 สิงหาคม 2487 3. รัฐบาลที่ 21 8 เมษายน 2491 - 24 มิถุนายน 2492 4. รัฐบาลที่ 22 25 มิถุนายน 2492 - 29 พฤศจิกายน 2494 5. รัฐบาลที่ 23 29 พฤศจิกายน 2494 - 6 ธันวาคม 2494 6. รัฐบาลที่ 24 6 ธันวาคม 2494 - 23 มีนาคม 2495 7. รัฐบาลที่ 25 24 มีนาคม 2495 - 26 กุมภาพันธ์ 2500 8. รัฐบาลที่ 26 21 มีนาคม 2500 - 16 กันยายน 2500 |
ประวัติการทำงาน | พ.ศ.2462 : ประจำกรมทหารบกปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ พ.ศ.2466 : ประจำกรมยุทธศาสตร์ทหารบก พ.ศ.2475 : รองผู้บังคับการทหารปืนใหญ่ พ.ศ.2476 : รองผู้บัญชาการทหารบก และรองผู้บังคับการมณฑลทหารราบที่ 1 พ.ศ.2483 : ผู้บัญชาการทหารบก พ.ศ.2483 : ผู้บัญชาการหารสูงสุดและแม่ทัพบก พ.ศ.2490 : ผู้บัญชาการทหารแห่งประเทศไทย |
บทบาททางการเมือง | พ.ศ. 2476 : สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ประเภท 2 พ.ศ. 2477 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2481 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2482 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2484 : ญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกในประเทศไทย จอมพล แปลก พิบูลสงคราม ให้ญี่ปุ่นเดินทัพผ่านไทย และในที่สุดได้ทำสัญญาพันธมิตรทางการทหารและเศรษฐกิจกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผลให้ภายหลังเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นลง จอมพลแปลก พิบูลสงคราม จึงต้องตกเป็นผู้ต้องหาอาชญากรสงคราม และถูกจับกุมขังเป็นเวลาหลายเดือน พ.ศ. 2485 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ .2491 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2492 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 4 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2494 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 5 พ.ศ. 2494 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 6 พ.ศ. 2495 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 7 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พ.ศ. 2497 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐการ พ.ศ. 2498 : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2500 : นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 8 |
ผลงานที่สำคัญ | - นโยบายสร้างชาติและการปลูกฝังความรู้สึกชาตินิยมให้แก่ประชาชนอย่างมากมาย เช่น การเปลี่ยนชื่อประเทศสยามมาเป็นประเทศไทย การเรียกร้องดินแดนทางด้านอินโดจีนคืนจากฝรั่งเศส การปลูกฝังความนิยมไทย และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทยบางอย่าง เช่น การให้สตรีเลิกนุ่งโจงกระเบนแล้วหันมาสวมกระโปรงแทนการให้ประชาชนเลิกกิน หมากพลู การตั้งชื่อผู้ชายให้มีลักษณะเข้มแข็ง ผู้หญิงให้แสดงถึงความอ่อนหวาน - การส่งเสริมการศึกษาวิชาการแก่ประชาชน โดยเฉพาะได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยเฉพาะวิชา เช่น มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์ (มหิดล) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นต้น |